บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มีนาคม, 2017

Please support me!

หากชอบใจบทความของผม โปรดสนับสนุนค่ากาแฟเล็กๆน้อยๆเพื่อเป็นกำลังใจนะครับ

[TRA013] เที่ยวเกียวโต: ชมซากุระที่วัด Nanzen-ji (南禅寺) และ Zenrin-ji (永観堂)

รูปภาพ
มาต่อกันอีก 2 วัดที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆกัน จากบริเวณ Keage Incline ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที จะสามารถเข้ามาชมวัด Nanzen-ji (南禅寺) ซึ่งเป็นวัดเซน(Zen) ที่เก่าแก่และมีพื้นที่กว้างขวาง ตลอดทางเดินเข้าวัดถูกรายล้อมด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ ซุ้มทางเข้าวัด Nanzenji เข้ามาจะพบกับทางเดินทอดยาวไปสู่จุดที่นักท่องเที่ยวมาไหว้ขอพร บริเวณด้านหน้าของตัววัด Nanzenji มีต้นซากุระขนาดใหญ่อยู่ด้านข้างตัววัด เมื่อเดินต่อไปด้านหลังของวัดจะพบกับท่อส่งน้ำที่ใช้ในสมัยโบราณ ลักษณะโครงสร้างเหมือนท่อส่งน้ำในยุคโรมัน พบมากในแถบยุโรป จากวัด Nanzen-ji เราเดินเลาะตามถนนเล็กๆด้านข้างวัด ซึ่งจะสังเกตเห็นนักท่องเที่ยวเดินสวนกันอย่างต่อเนื่อง เพราะถนนเส้นนี้จะนำไปสู่ Philosopher's Path ซึ่งเป็นเส้นทางเดินยอดนิยมสำหรับการชมซากุระในเกียวโตนั่นเอง ระหว่างทางนั้น ฝั่งขวามือจะพบกับวัด  Eikando (永観堂) หรือ  Zenrin-ji ที่มีความโดดเด่นเป็นเจดีย์ซึ่งตั้งอยู่บนเขา มีสวนที่สวยงามและโบสถ์ขนาดใหญ่  วัดนี้จะเป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (เสียค่าเข้า 600 เยนนะ) มีสวนเล็กๆอยู่ใน

151

ไดอารีที่รัก... อันที่จริงแล้ว สมัยเรียนมหาลัยนั้น ผมเป็นคนที่ขี้เกียจเรียนพอสมควรเลยครับ ส่วนหนึ่งอาจเพราะช่วงนั้นรู้สึกว่าตัวเองสนุกกับการใช้ชีวิตในมหาลัยมากกว่าการเรียนในห้อง อยากทำกิจกรรม อยากออกค่าย อยากเที่ยว อยากเล่นเกมส์กับเพื่อน อยากเล่นดนตรี ความอยากในการเรียนจริงๆเลยเป็นเรื่องรองลงไปมากๆ โดยเฉพาะช่วงปี 1-2 ที่วิชาเรียนนั้นยังไม่โฟกัสกับสิ่งที่อยากรู้เท่าที่ควร ... พอตอนปี 3-4 ผมเริ่มโฟกัสกับการเรียนมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว  เริ่มกินนอนในห้องโปรเจค  มีหอพักไว้เก็บของและอาบน้ำอย่างเดียว ถึงอย่างนั้นแล้ว ผมก็ยังไม่ค่อยชอบเข้าเรียนอยู่ดี ที่บอกว่าโฟกัสมากขึ้นน่าจะเป็นเรื่องของการทำงานหรือโปรเจคในแต่ละวิชาเรียนมากกว่า บางทีนี่ก็เป็นจุดเปลี่ยนที่บอกอะไรตัวเองได้หลายอย่าง ผมพบว่าตัวเองไม่ชอบเรียนหนังสือแบบเน้นๆลงลึกๆ แต่ชอบที่จะลงมือทำงานมากกว่า และพอติดปัญหา สุดท้ายมันก็จะผลักดันให้เราไปเรียนเอง เพราะถ้ายังโง่อยู่จะไปต่อไม่ได้ ... ผมไม่แน่ใจว่าคนอื่นจะเป็นแบบผมบ้างรึเปล่า แต่พอโตขึ้นมาใช้ชีวิตกับการทำงานจริง เรากลับอยากมีเวลาเรียนนู่นเรียนนี่เพิ่

150

ไดอารีที่รัก... เคยคิดไหมครับว่าตัวเองมีทักษะอะไรที่น่าภูมิใจบ้าง? ผมไม่ได้กำลังหมายถึงสิ่งที่ตัวเองเก่งหรือทำได้ดีนะครับ ความเก่งหรือความเชี่ยวชาญอาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่าไหร่ ใจจริงแล้วมีบางอย่างที่ผมรู้สึกโชคดีและภูมิใจที่ทำเป็น ทักษะที่เกิดจากความชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เราเรียนรู้ด้วยตนเอง มักสร้างความสุขให้ผมได้เสมอ หรืออย่างน้อย มันอาจเรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้างได้นั่นก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ... ผมโชคดีที่พอเล่นดนตรีได้บ้างนิดหน่อย มันกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่ทำให้รู้สึกมีคุณค่า ต้องขอบคุณพี่ชายและคุณพ่อของผมที่สนับสนุนให้ไปเรียนกีตาร์ตอนเด็กๆ ผมภูมิใจที่เพื่อนๆยังคงแวะเวียนมาถามเรื่องเล่นดนตรีและอยากฟังผมเล่นกีตาร์ในวงเหล้าเหมือนสมัยก่อน ผมดีใจที่พอทำอาหารทานเองได้บ้าง ต้องขอบคุณคุณแม่ที่ให้โอกาสผมเป็นลูกมือในครัวสมัยเด็กๆ ผมภูมิใจที่ยังพอทำอาหารให้คนอื่นกินในยามจำเป็นได้ (เช่น ปลากระป๋องผัดไข่ตอนไปออกค่ายบนดอย หรือกะหล่ำปลีทอดน้ำปลาสำหรับกับแกล้มเบียร์ตอนตีสอง) ผมรู้สึกขอบคุณวันที่ผิดหวังในอดีต ที่กลายเป็นแรงผลักดันให้ศึกษาการลงทุนอย่า