150
ไดอารีที่รัก...
...
ผมพบว่าสมการนี้เริ่มจะโอเคกับตัวเองมากขึ้น
แต่เป้าหมายระยะยาวของผมก็ยังคงไม่เปลี่ยนไป นั่นคือการใช้ทักษะที่เรามีมาช่วยสร้างให้สังคมดีขึ้น
เคยคิดไหมครับว่าตัวเองมีทักษะอะไรที่น่าภูมิใจบ้าง?
ผมไม่ได้กำลังหมายถึงสิ่งที่ตัวเองเก่งหรือทำได้ดีนะครับ
ความเก่งหรือความเชี่ยวชาญอาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่าไหร่
ใจจริงแล้วมีบางอย่างที่ผมรู้สึกโชคดีและภูมิใจที่ทำเป็น
ทักษะที่เกิดจากความชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เราเรียนรู้ด้วยตนเอง มักสร้างความสุขให้ผมได้เสมอ
หรืออย่างน้อย มันอาจเรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้างได้นั่นก็ถือว่าใช้ได้แล้ว
...
ผมโชคดีที่พอเล่นดนตรีได้บ้างนิดหน่อย มันกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่ทำให้รู้สึกมีคุณค่า
ต้องขอบคุณพี่ชายและคุณพ่อของผมที่สนับสนุนให้ไปเรียนกีตาร์ตอนเด็กๆ
ผมภูมิใจที่เพื่อนๆยังคงแวะเวียนมาถามเรื่องเล่นดนตรีและอยากฟังผมเล่นกีตาร์ในวงเหล้าเหมือนสมัยก่อน
ผมดีใจที่พอทำอาหารทานเองได้บ้าง ต้องขอบคุณคุณแม่ที่ให้โอกาสผมเป็นลูกมือในครัวสมัยเด็กๆ
ผมภูมิใจที่ยังพอทำอาหารให้คนอื่นกินในยามจำเป็นได้ (เช่น ปลากระป๋องผัดไข่ตอนไปออกค่ายบนดอย หรือกะหล่ำปลีทอดน้ำปลาสำหรับกับแกล้มเบียร์ตอนตีสอง)
ผมรู้สึกขอบคุณวันที่ผิดหวังในอดีต ที่กลายเป็นแรงผลักดันให้ศึกษาการลงทุนอย่างเต็มที่
ขอบคุณจารย์เนียงที่ช่วยให้ผมเริ่มต้นได้แบบมาถูกทาง
ผมภูมิใจที่อย่างน้อยก็ช่วยแนะนำคนรอบข้างให้เข้าใจเรื่องความยั่งยืนของกำไรและความเสี่ยงมากขึ้น
ผมอาจจะไม่เก่งอะไรสักอย่างเลย แต่ยังคงรักที่จะทำและแบ่งปันมุมมองสิ่งเหล่านี้ให้กับผู้อื่นเสมอ
...
ผมเคยรู้สึกว่า ถ้าเราพัฒนาทักษะที่มีอยู่ให้เก่งขึ้น จนสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ดีขึ้นได้
เราก็จะมีความสุขมากขึ้นด้วย
จากนั้นผมก็พยายามที่จะพัฒนาหลายสิ่งหลายอย่างอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อชีวิตผมดำเนินไปเรื่อยๆ ก็พบว่ามันไม่ได้ง่ายอะไรขนาดนั้น
บททดสอบที่ยากขึ้นถูกโยนเข้ามาให้เราเรื่อยๆ
พอท้อจากอย่างหนึ่ง ก็หันไปเอาดีอีกอย่างหนึ่ง
แล้วมันก็หมุนเวียนกันไปจนครบรอบ
รู้สึกตัวอีกทีมันก็ดูดเวลาและพลังงานเราไปมากเสียแล้ว
จากนั้นมาผมก็เริ่ม focus ทีละอย่างมากขึ้น ก็พบว่ามันทำให้ผมไปได้เร็วขึ้น
แล้วปัญหาถัดไปก็โผล่ขึ้นมาในหัวผมว่า
"...ก็เราไม่ได้มีความสุขที่จะทำให้มันเก่งนี่หว่า?"
เมื่อไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ ผมก็ได้ตระหนักว่าบางครั้งผมก็ยอมแลกความสุขไปเพื่อการ focus ที่มากขึ้น
...
สิ่งที่ผมทำอยู่ตอนนี้คือ focus + แบ่งระดับความจริงจัง + ตั้งเป้าหมายทีละนิดแบบไม่ยากเกินไป
ผมพบว่าสมการนี้เริ่มจะโอเคกับตัวเองมากขึ้น
เพราะมันช่วย balance ความคาดหวังกับผลงานที่ออกมา และยังทำให้มีระดับความสุขที่น่าพอใจ
อย่างไรก็ตาม นี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมจะยึดติดเสมอไป
มุมมองและประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้วิธีการจัดการเหล่านี้ถูกเปลี่ยนให้เข้ากับช่วงชีวิตของเราได้เสมอ
แต่เป้าหมายระยะยาวของผมก็ยังคงไม่เปลี่ยนไป นั่นคือการใช้ทักษะที่เรามีมาช่วยสร้างให้สังคมดีขึ้น
เวลาได้ลองใส่พลังงานเข้าไปในบางไอเดียที่เกิดขึ้นใหม่ในหัว ทำให้ผมรู้สึกสนุกที่จะลงมือทำเสมอๆครับ.
ampmie152
ampmie152
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น