117
ไดอารีที่รัก...
วันนี้ผมอยากจะมาบอกอย่างเป็นทางการว่า
อีกประมาณ 2 สัปดาห์ ผมจะบวชแล้วนะครับ
ที่วัดราชาธิวาสฯ เป็นเวลาประมาณ 15 วัน
นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งคือ...
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือที่เราคุ้นชื่อของท่านว่า พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี
ท่านนัดผมเข้ามาที่สำนักพิมพ์อัมรินทร์ เพื่อไปรับหนังสือพร้อมซีดีที่จะแจกในงานบวช
เป็นหนังสือที่ท่านเขียนเกี่ยวกับความกตัญญู มีชื่อว่า "หนึ่งในร้อย"
ท่านกล่าวว่า การบวชก็ถือเป็นการแสดงความกตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่
หนังสือเล่มนี้ก็พูดถึงเรื่องของความกตัญญู ที่เปรียบเสมือนความดีอันเป็นที่หนึ่งจากหลายร้อยความดี
...
เมื่อผมเดินทางไปถึงอัมรินทร์ปริ้นท์ติ้ง ผมก็ได้พบกับสถาบันวิมุตตยาลัย
ผมมองไปรอบๆห้อง
เต็มไปด้วยรูปของพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ที่ท่านเคยลงหนังสือพิมพ์หรือถ่ายรายการต่างๆ
หนังสือธรรมะ และงานเขียนของท่านทุกเล่ม
ที่นี่เปรียบเสมือนที่ทำงานและโชว์รูมผลงานของท่านก็ว่าได้
และเบื้องหน้าของผม...พระอาจารย์ท่านกำลังอัดรายการทีวีอยู่
พี่เอ๋ หนึ่งในพนักงานของบริษัทที่แสนจะใจดีและต้อนรับผมและคุณแม่อย่างอบอุ่น เล่าให้ฟังว่า
ตอนนี้ท่านกำลังอัดรายการที่จะเป็นการเล่านิทานให้ฟัง แล้วมีพิธีกรที่เป็นเด็กคอยถามปัญหา
ออกอากาศตอนช่วงเช้าๆวันเสาร์
เมื่อท่าานพระอาจารย์อัดรายการเสร็จไปหนึ่งตอน ท่านก็ให้เราเข้าไปสนทนาด้วย
นอกจากนี้แล้ว ท่านยังร่วมอนุโมทนาด้วยการมอบผ้าไตรจีวรให้กับผม และย้ำว่าให้ช่วยใส่ตอนบวชด้วย
ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับมอบจากมือท่านเอง
ท่านยังขออภัยมาด้วย ที่ไม่สามารถไปร่วมงานบวชได้เพราะช่วงนั้นท่านติดภารกิจที่ซิดนีย์
...
ท่านสอนผมว่า การบวชนั้น คือการให้ความสำคัญกับสามสิ่ง
หนึ่ง ตัวเอง
เราเรียนวิชาชีพจบมาแล้ว การบวชก็เหมือนกับเราได้เรียนวิชาชีวิตต่อ
แม้จะเป็นบทเรียนสั้นๆ แต่นี่ก็คือครั้งหนึ่งในชีวิตที่เราจะได้เรียนรู้วิชาชีวิตนี้
จงตั้งใจ และทำให้ดีที่สุด แม้เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ
สอง พ่อแม่
การบวชเฉยๆไม่ได้ถือเป็นการทดแทนคุณพ่อแม่
แต่การเป็นพระที่ดี คือการทดแทนคุณพ่อแม่
สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตเราคือ ชีวิต
แล้วใครคือผู้ให้ชีวิตเรามา?
นั่นคือ...คุณพ่อ คุณแม่
การที่เรานำชีวิตเราไปทำสิ่งที่ดี เช่นการบวชนี้
นั่นก็เหมือนเป็นการทดแทนคุณ และกตัญญูต่อพ่อแม่เราด้วย
สาม พุทธศาสนา
แม้ 15 วัน จะเป็นเพียงเวลาสั้นๆ
แต่มันก็ไม่สำคัญว่าระยะเวลาต้องนานเท่าไหร่
มันสำคัญที่ว่า เราตั้งใจและทำตัวอย่างไร
การที่เราได้บวชก็เหมือนเราได้เป็นศิษย์ของพระพุทธเจ้าคนหนึ่ง
ซึ่งเป็นผู้เผยแผ่พุทธศาสนาต่อไป
เปรียบเสมือนเทียนเล่มเล็กๆเล่มหนึ่ง ที่ได้รับการต่อมาจากเทียนเล่มใหญ่
แม้จะอยู่ได้ไม่นาน แต่มันก็มีคุณค่าในการให้แสงสว่างได้
...
หลังจบบทสนทนา ผมและคุณแม่ก็ถวายน้ำผลไม้และปัจจัยให้ท่าน ก่อนที่จะกราบลา
ขณะนั้นก็มีผู้จัดการของดาราคนหนึ่งมาติดต่อท่าน
ชายคนนั้นกล่าวว่า เขาได้ดูรายการของพระอาจารย์แล้วรู้สึกดีมากที่ทำให้คนเข้าถึงธรรมะได้ง่ายขึ้น
และยังมีผู้หญิงอีกคนมาขอเข้าพบอีกเช่นกัน
พระอาจารย์ท่านก็ยังค้างอัดรายการอยู่
จะเห็นว่าท่านมีภารกิจมากเหลือเกิน แต่ท่านก็ทำทุกอย่างด้วยรอยยิ้ม และความมุ่งมั่นมาโดยตลอด
...
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาสัมผัสถึงตัวตนของพระอาจารย์อย่างแท้จริง
ความรู้สึกนี้มันยิ่งกว่าที่เคยได้สัมผัสผ่านสื่อใดๆ
เมื่อผมรับปากท่านมาแล้ว
15 วันที่ผมบวช จะเป็น 15 วันที่คุ้มค่าที่สุดกับครั้งหนึ่งในชีวิต
ขออโหสิกรรมให้กับเพื่อนมนุษย์และสิ่งมีชีวิตผู้ร่วมทุกข์ในโลกนี้ทั้งหลาย
ไว้เจอกันหลังสึกครับ...ทุกท่าน.
วันนี้ผมอยากจะมาบอกอย่างเป็นทางการว่า
อีกประมาณ 2 สัปดาห์ ผมจะบวชแล้วนะครับ
ที่วัดราชาธิวาสฯ เป็นเวลาประมาณ 15 วัน
นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งคือ...
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือที่เราคุ้นชื่อของท่านว่า พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี
ท่านนัดผมเข้ามาที่สำนักพิมพ์อัมรินทร์ เพื่อไปรับหนังสือพร้อมซีดีที่จะแจกในงานบวช
เป็นหนังสือที่ท่านเขียนเกี่ยวกับความกตัญญู มีชื่อว่า "หนึ่งในร้อย"
ท่านกล่าวว่า การบวชก็ถือเป็นการแสดงความกตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่
หนังสือเล่มนี้ก็พูดถึงเรื่องของความกตัญญู ที่เปรียบเสมือนความดีอันเป็นที่หนึ่งจากหลายร้อยความดี
...
เมื่อผมเดินทางไปถึงอัมรินทร์ปริ้นท์ติ้ง ผมก็ได้พบกับสถาบันวิมุตตยาลัย
ผมมองไปรอบๆห้อง
เต็มไปด้วยรูปของพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ที่ท่านเคยลงหนังสือพิมพ์หรือถ่ายรายการต่างๆ
หนังสือธรรมะ และงานเขียนของท่านทุกเล่ม
ที่นี่เปรียบเสมือนที่ทำงานและโชว์รูมผลงานของท่านก็ว่าได้
และเบื้องหน้าของผม...พระอาจารย์ท่านกำลังอัดรายการทีวีอยู่
พี่เอ๋ หนึ่งในพนักงานของบริษัทที่แสนจะใจดีและต้อนรับผมและคุณแม่อย่างอบอุ่น เล่าให้ฟังว่า
ตอนนี้ท่านกำลังอัดรายการที่จะเป็นการเล่านิทานให้ฟัง แล้วมีพิธีกรที่เป็นเด็กคอยถามปัญหา
ออกอากาศตอนช่วงเช้าๆวันเสาร์
เมื่อท่าานพระอาจารย์อัดรายการเสร็จไปหนึ่งตอน ท่านก็ให้เราเข้าไปสนทนาด้วย
นอกจากนี้แล้ว ท่านยังร่วมอนุโมทนาด้วยการมอบผ้าไตรจีวรให้กับผม และย้ำว่าให้ช่วยใส่ตอนบวชด้วย
ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับมอบจากมือท่านเอง
ท่านยังขออภัยมาด้วย ที่ไม่สามารถไปร่วมงานบวชได้เพราะช่วงนั้นท่านติดภารกิจที่ซิดนีย์
...
ท่านสอนผมว่า การบวชนั้น คือการให้ความสำคัญกับสามสิ่ง
หนึ่ง ตัวเอง
เราเรียนวิชาชีพจบมาแล้ว การบวชก็เหมือนกับเราได้เรียนวิชาชีวิตต่อ
แม้จะเป็นบทเรียนสั้นๆ แต่นี่ก็คือครั้งหนึ่งในชีวิตที่เราจะได้เรียนรู้วิชาชีวิตนี้
จงตั้งใจ และทำให้ดีที่สุด แม้เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ
สอง พ่อแม่
การบวชเฉยๆไม่ได้ถือเป็นการทดแทนคุณพ่อแม่
แต่การเป็นพระที่ดี คือการทดแทนคุณพ่อแม่
สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตเราคือ ชีวิต
แล้วใครคือผู้ให้ชีวิตเรามา?
นั่นคือ...คุณพ่อ คุณแม่
การที่เรานำชีวิตเราไปทำสิ่งที่ดี เช่นการบวชนี้
นั่นก็เหมือนเป็นการทดแทนคุณ และกตัญญูต่อพ่อแม่เราด้วย
สาม พุทธศาสนา
แม้ 15 วัน จะเป็นเพียงเวลาสั้นๆ
แต่มันก็ไม่สำคัญว่าระยะเวลาต้องนานเท่าไหร่
มันสำคัญที่ว่า เราตั้งใจและทำตัวอย่างไร
การที่เราได้บวชก็เหมือนเราได้เป็นศิษย์ของพระพุทธเจ้าคนหนึ่ง
ซึ่งเป็นผู้เผยแผ่พุทธศาสนาต่อไป
เปรียบเสมือนเทียนเล่มเล็กๆเล่มหนึ่ง ที่ได้รับการต่อมาจากเทียนเล่มใหญ่
แม้จะอยู่ได้ไม่นาน แต่มันก็มีคุณค่าในการให้แสงสว่างได้
...
หลังจบบทสนทนา ผมและคุณแม่ก็ถวายน้ำผลไม้และปัจจัยให้ท่าน ก่อนที่จะกราบลา
ขณะนั้นก็มีผู้จัดการของดาราคนหนึ่งมาติดต่อท่าน
ชายคนนั้นกล่าวว่า เขาได้ดูรายการของพระอาจารย์แล้วรู้สึกดีมากที่ทำให้คนเข้าถึงธรรมะได้ง่ายขึ้น
และยังมีผู้หญิงอีกคนมาขอเข้าพบอีกเช่นกัน
พระอาจารย์ท่านก็ยังค้างอัดรายการอยู่
จะเห็นว่าท่านมีภารกิจมากเหลือเกิน แต่ท่านก็ทำทุกอย่างด้วยรอยยิ้ม และความมุ่งมั่นมาโดยตลอด
...
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาสัมผัสถึงตัวตนของพระอาจารย์อย่างแท้จริง
ความรู้สึกนี้มันยิ่งกว่าที่เคยได้สัมผัสผ่านสื่อใดๆ
เมื่อผมรับปากท่านมาแล้ว
15 วันที่ผมบวช จะเป็น 15 วันที่คุ้มค่าที่สุดกับครั้งหนึ่งในชีวิต
ขออโหสิกรรมให้กับเพื่อนมนุษย์และสิ่งมีชีวิตผู้ร่วมทุกข์ในโลกนี้ทั้งหลาย
ไว้เจอกันหลังสึกครับ...ทุกท่าน.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น