Please support me!

หากชอบใจบทความของผม โปรดสนับสนุนค่ากาแฟเล็กๆน้อยๆเพื่อเป็นกำลังใจนะครับ

132


ไดอารีที่รัก

เมื่อเราเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน
เรามักจะมีช่วงเวลาสั้นๆในการหยุดนิ่ง
ให้ลองมองย้อนกลับไป
แล้วมองต่อไปข้างหน้า

อะไรกำลังรอเราอยู่นะ?

...

เมื่อคืนที่ผ่านมานี้
ถือเป็นวันที่ผมบอกลาอาชีพโปรแกรมเมอร์อย่างเป็นทางการ
และก็คงเป็นไปได้ยากเสียแล้ว ที่ชีวิตของผมจะได้กลับมาประกอบอาชีพนี้อีกครั้ง

ที่พูดแบบนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าผมมีความคิดในแง่ลบอะไรหรอกนะครับ
จริงอยู่ที่การเขียนโปรแกรม เป็นงานที่ผมเรียนจบมาโดยตรง
แต่อันที่จริงแล้วผมก็รู้ตัวดีว่า มันก็เป็นสิ่งที่เราอยู่กับมันได้
แต่ไม่ได้สนุกไปกับมันแบบ "เกินร้อย"

ที่ผมใช้คำว่า "เกินร้อย" นั้นหมายความว่า
ถ้าผมสนุกกับงานเขียนโปรแกรมได้มากที่สุดคือร้อยเปอร์เซนต์
นั่นถือว่าดี
แต่ผมก็ยังอยากทำงานที่ผมสนุกกับมันได้เกินร้อยมากกว่า

...

ย้อนกลับไปเมื่อ 1 ปี 8 เดือน ที่แล้ว
ผมเดินทางมาหยุดอยู่หน้าโฮมออฟฟิศขนาดเล็ก บรรยากาศร่มรื่น
ดูอินดี้และไม่น่าจะเป็นลุคของบริษัทที่ทำงานกับต่างชาติเสียเท่าไหร่
ป้ายสีดำ ถูกตัวอักษรสีขาวที่เฉียบคม นอนพาดเป็นตัวอักษรว่า "Yannix"
ที่นี่คือที่ทำงานแห่งแรกของผมครับ

จากวันนั้นจนถึงวันนี้
ผมค่อยๆถูกสังคมของที่ Yannix หล่อหลอม จนแทบไม่รู้สึกตัว
กว่าจะรู้สึกตัวอีกที ผมก็คือสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวที่อบอุ่นนี้ไปเสียแล้ว

นี่คือบริษัท นี่คือที่ๆทำธุรกิจ
แต่ที่นี่ไม่ได้มีแค่คำว่า เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า และลูกน้อง อย่างที่อื่นมี
ที่นี่มีคำว่า "ครอบครัว"
ผมรู้สึกเหมือนกับว่าทุกคนที่นี่อยู่กันแบบธรรมชาติ
มันไม่ต้องมีอะไรให้มากมายในการใช้ชีวิตร่วมกันในที่แห่งนี้
จริงใจและแบ่งปัน เหมือนอย่างที่คุณทำกับครอบครัวของคุณ

ผมรู้สึกโชคดีมาก ที่ได้ร่วมงานกับทุกคนในบริษัทนี้
มันเป็นยิ่งกว่าประสบการณ์ทำงาน
เพราะมันคือ "สังคม"
สังคมหนึ่ง ที่เป็นส่วนสำคัญในชีวิตผม

หลายคนที่ต้องเดินผ่านที่นี่ไป
ต่างก็เคยเล่าให้ผมฟังว่า
"เพื่อนร่วมงานที่นี่สุดยอดแล้ว"
ครับ...ผมเห็นด้วยอย่างที่สุด

ผมเคยได้ยินผู้คนมากมาย บ่นถึงปัญหาพฤติกรรมของผู้ร่วมงานในบริษัทต่างๆ
ซึ่งก็เลวร้ายมากน้อยต่างกันไป
แต่สิ่งเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้นในสังคมของบริษัทผมเลย
จนทำให้ผมยิ่งคิดไปได้อีกว่า

"เห้ย...กูจะหาบริษัทที่มีเพื่อนร่วมงานที่ดีแบบนี้ได้ที่ไหนอีกวะเนี่ย?"

เมื่อเวลาผ่านไป
จากโฮมออฟฟิศเล็กๆ ก็กลายมาเป็นออฟฟิศแบบเต็มตัวมากขึ้น
เรามีครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น
แต่ความอบอุ่นนั้นไม่เคยลดลงแม้แต่น้อย

ผมอยากจะขอบคุณทุกๆคนในบริษัท
ทุกๆคนคือครูของผม ทุกๆคนทำให้ผมเติบโต
ผมได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง

ความรู้
ประสบการณ์
วัฒนธรรม
ความรู้สึก

แน่นอน...สิ่งเหล่านี้มันไม่มีขายในร้านสะดวกซื้อ.

...

งานเลี้ยงอำลาของผมและเพื่อนอีกคนหนึ่ง ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่หน้าบริษัท
ผมและเพื่อนๆที่บริษัทที่เล่นดนตรีด้วยกัน ขนเครื่องดนตรีและอุปกรณ์มากันแบบครบเครื่อง เพื่อที่จะเล่นดนตรีในคืนนี้
นี่อาจจะเป็นการแสดงสดครั้งสุดท้ายของผมที่นี่ ผมตั้งใจอยากให้ทุกคนสนุกกับมัน

...

เมื่อเสียงเพลงในงานเลี้ยงคืนนี้จบลง
มันก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องบรรเลงเพลงถัดไปให้กับชีวิตแล้ว

ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ ก็จงอิมโพรไวส์มันต่อไป

ด้วยจิตวิญญาณที่ฉันมี :)



ampmie152.
http://ampmie152.blogspot.com/

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

[MUS001] Kazoo...เครื่องดนตรีที่ใครๆก็เล่นได้!

[OTH004] มาเล่นแฟลกฟุตบอลกันเถอะ!

[INV033] รีวิว 6 เดือน กับการเป็น FA ที่ Finnomena

[IT006] How to convert UTF-8 to ANSI ? (Thai fonts)

[INV023] วิธีใช้ไฟล์ excel ประเมินมูลค่าหุ้นคร่าวๆจากงบการเงิน