[INV021] ข้อคิดจากการลงทุนของผม ประจำปี 2015 (2558)
สำหรับปีที่ผ่านมานี้ ถือเป็นปีที่ผมรู้สึกว่าได้เรียนรู้และได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนๆ
แน่นอนว่าปีนี้ผมขาดทุนครับ แต่ก็ยังสามารถประคองตัวได้บ้าง
ผลงานปีนี้ผม -6% ในขณะที่ตลาด -14%
ก็ถือว่าน่าพอใจที่ไม่เจ็บหนัก ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้เรื่องการกระจายความเสี่ยง ที่ช่วงหลังมานี้ผมค่อนข้างให้ความสำคัญมากกว่าแต่ก่อน ซึ่งเน้นแต่เรื่อง growth เพียงมิติเดียว
...
ผมคิดว่าความยากลำบากสำหรับปีที่ผ่านมานี้เกิดจากการโหมกระหน่ำจากทั้งปัจจัยภายนอกและภายในที่สาหัสกว่าปีก่อนหน้า
ปัจจัยภายนอกอย่างแรกคือ สภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่การส่งออก การบริโภค ตลอดจนการใช้จ่ายของภาครัฐ
จะเรียกว่า "เกินเยียวยา" ก็ดูจะไม่เว่อร์เกินไป เพราะความจริงที่เกิดขึ้นนั้นได้พิสูจน์ตัวมันเองไว้หมดแล้ว
ปัจจัยภายนอกอย่างที่สองคือ ประเทศไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันอย่างสิ้นเชิง ปีที่ผ่านมานี้ผมได้เห็นแนวโน้มที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆในประเด็นนี้ ทั้งการเติบโตแบบก้าวกระโดดของประเทศอื่นๆในภูมิภาค (เช่น เวียดนาม) การสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาด และการถดถอยในบางอุตสาหกรรมที่คาดว่าเราจะไม่สามารถกลับไปที่จุดเดิมได้อีก
เหมือนเราเดินไปสุด frontier แล้วเราก็หมดแรงลงเรื่อยๆ
เหมือนเราล้มเหลวที่จะสร้าง S Curve แล้วเราก็จมลงอยู่ต่ำกว่าเดิม
...
สำหรับปัจจัยภายในนั้น ไม่น่าเชื่อว่าหุ้นหลายตัวที่เคยเป็น "ตัวเต็ง" ในความคิดผม จะต้องพบกับปัญหาหลายอย่างที่เราคาดไม่ถึงว่ามันจะเกิด
หรือบางครั้ง คาดว่ามันจะเกิด แต่ไม่คิดว่าผลกระทบจะรุนแรงได้ขนาดนี้
สิ่งเหล่านี้เป็นบทเรียนให้ผมต้องรอบคอบมากขึ้น
พิจารณา downside ให้มากขึ้น
เขียนเป้าหมายที่ชัดเจนในแต่ละการกระทำให้เข้มงวดขึ้น
พยายามลด bias ของหุ้นที่เราถือให้น้อยลง เพรานี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราประมาท
...
ส่วนแนวทางในการลงทุนสำหรับปี 2016 นี้ ผมคิดว่าจะเน้นการกระจายความเสี่ยงให้มากขึ้น นั่นหมายถึงการเริ่มมองหาโอกาสลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นด้วย
ซึ่งไม่ใช่งานง่ายและไม่ใช่สิ่งที่ผมถนัด
ผมยอมรับว่าต้องทำการบ้านอีกมาก แต่หลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในปีนี้ ทำให้ผมคิดว่า ถ้าเราจะสู้ต่อ เราก็ต้องเริ่มก้าวด้วยตนเองตอนนี้
ดีกว่ารอจนโดนบีบให้ก้าว และเมื่อถึงตอนนั้นสถานการณ์และทางเลือกจะยิ่งลำบากกว่าวันนี้แน่นอน
...
ดังนั้น ถ้าถามว่าอยากจะขอพรอะไรสักอย่างสำหรับปีนี้น่ะหรอ?
...ขอให้ผมขยันมากกว่าปีที่แล้วก็พอ.
ampmie152.
http://ampmie152.blogspot.com
แน่นอนว่าปีนี้ผมขาดทุนครับ แต่ก็ยังสามารถประคองตัวได้บ้าง
ผลงานปีนี้ผม -6% ในขณะที่ตลาด -14%
ก็ถือว่าน่าพอใจที่ไม่เจ็บหนัก ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้เรื่องการกระจายความเสี่ยง ที่ช่วงหลังมานี้ผมค่อนข้างให้ความสำคัญมากกว่าแต่ก่อน ซึ่งเน้นแต่เรื่อง growth เพียงมิติเดียว
...
ผมคิดว่าความยากลำบากสำหรับปีที่ผ่านมานี้เกิดจากการโหมกระหน่ำจากทั้งปัจจัยภายนอกและภายในที่สาหัสกว่าปีก่อนหน้า
ปัจจัยภายนอกอย่างแรกคือ สภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่การส่งออก การบริโภค ตลอดจนการใช้จ่ายของภาครัฐ
จะเรียกว่า "เกินเยียวยา" ก็ดูจะไม่เว่อร์เกินไป เพราะความจริงที่เกิดขึ้นนั้นได้พิสูจน์ตัวมันเองไว้หมดแล้ว
ปัจจัยภายนอกอย่างที่สองคือ ประเทศไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันอย่างสิ้นเชิง ปีที่ผ่านมานี้ผมได้เห็นแนวโน้มที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆในประเด็นนี้ ทั้งการเติบโตแบบก้าวกระโดดของประเทศอื่นๆในภูมิภาค (เช่น เวียดนาม) การสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาด และการถดถอยในบางอุตสาหกรรมที่คาดว่าเราจะไม่สามารถกลับไปที่จุดเดิมได้อีก
เหมือนเราเดินไปสุด frontier แล้วเราก็หมดแรงลงเรื่อยๆ
เหมือนเราล้มเหลวที่จะสร้าง S Curve แล้วเราก็จมลงอยู่ต่ำกว่าเดิม
...
สำหรับปัจจัยภายในนั้น ไม่น่าเชื่อว่าหุ้นหลายตัวที่เคยเป็น "ตัวเต็ง" ในความคิดผม จะต้องพบกับปัญหาหลายอย่างที่เราคาดไม่ถึงว่ามันจะเกิด
หรือบางครั้ง คาดว่ามันจะเกิด แต่ไม่คิดว่าผลกระทบจะรุนแรงได้ขนาดนี้
สิ่งเหล่านี้เป็นบทเรียนให้ผมต้องรอบคอบมากขึ้น
พิจารณา downside ให้มากขึ้น
เขียนเป้าหมายที่ชัดเจนในแต่ละการกระทำให้เข้มงวดขึ้น
พยายามลด bias ของหุ้นที่เราถือให้น้อยลง เพรานี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราประมาท
...
ส่วนแนวทางในการลงทุนสำหรับปี 2016 นี้ ผมคิดว่าจะเน้นการกระจายความเสี่ยงให้มากขึ้น นั่นหมายถึงการเริ่มมองหาโอกาสลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นด้วย
ซึ่งไม่ใช่งานง่ายและไม่ใช่สิ่งที่ผมถนัด
ผมยอมรับว่าต้องทำการบ้านอีกมาก แต่หลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในปีนี้ ทำให้ผมคิดว่า ถ้าเราจะสู้ต่อ เราก็ต้องเริ่มก้าวด้วยตนเองตอนนี้
ดีกว่ารอจนโดนบีบให้ก้าว และเมื่อถึงตอนนั้นสถานการณ์และทางเลือกจะยิ่งลำบากกว่าวันนี้แน่นอน
...
ดังนั้น ถ้าถามว่าอยากจะขอพรอะไรสักอย่างสำหรับปีนี้น่ะหรอ?
...ขอให้ผมขยันมากกว่าปีที่แล้วก็พอ.
ampmie152.
http://ampmie152.blogspot.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น