[TRA011] เที่ยวญี่ปุ่น: รีวิวการเดินทางไปชมทุ่ง kochia ที่ Hitachi Seaside Park
ถือเป็นครั้งแรกของผมสำหรับการมาเยือนญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (หรือใบไม้เปลี่ยนสี) หากนึกถึงสถานที่ที่พลาดไม่ได้ในช่วงนี้ คงไม่พ้นการชมทุ่งดอกไม้ที่ Hitachi Seaside Park (国営ひたち海浜公園) ที่จังหวัด Ibaraki อย่างแน่นอน เพราะนี่คือช่วงเดียวของทั้งปี (ปลายเดือนกันยายนจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม) ที่จะได้เห็นต้นโคเคีย (Kochia) เป็นสีแดงเต็มไปหมดทั้งเนินเขา นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายโซนที่น่าสนใจเช่น โซนป่า ทุ่งดอกไม้ โซนสนามหญ้าที่กว้างขวาง และโซนสวนสนุก
จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) อยู่ตรงไหน?
เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อกับจังหวัดอิบารากิสักเท่าไหร่ จังหวัดนี้อยู่ในภูมิภาคคันโต ติดชายฝั่งตะวันออกซึ่งไม่ไกลจากโตเกียวและชิบะนัก จึงเป็นที่นิยมสำหรับการจัด one-day trip ไปเช้า-เย็นกลับได้สบายมาก
อันที่จริงแล้วอิบารากินั้นมีพื้นที่กว้างใหญ่ ฝั่งขวาติดทะเลทั้งหมด ขึ้นชื่อในเรื่องธรรมชาติ ทุ่งดอกไม้ และน้ำตก ถ้าใครที่ชอบเที่ยวแนวธรรมชาติ ลองจัดทริปอยู่ที่อิบารากิสักคืนก็น่าสนใจทีเดียวครับ
การเดินทางจาก Tokyo สู่ Hitachi Seaside Park
จากสถานีโตเกียว สามารถใช้สาย JR Joban Line เพื่อเดินทางไปสู่สถานี Katsuta (勝田駅) ซึ่งใครจะขึ้นจาก Ueno ก็ทำได้เช่นกันครับ ครั้งนี้ผมเดินทางด้วยขบวน Limited Express "Hitachi" ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง 18 นาที
สำหรับใครที่ใช้ JR East Pass ทั้งหลาย สามารถจองได้เลย (แนะนำให้จองที่นั่งก่อน โดยเฉพาะช่วง high season และวันอาทิตย์แบบนี้)
มื้อเที่ยงวันนี้ แวะซื้อเอคิเบนขึ้นไปกินบนรถไฟซะเลย (คนในร้านเยอะมาก)
ได้ข้าวหน้าลิ้นวัวมาอย่างไม่ต้องคิดมาก เป็นกล่องแบบอุ่นได้ในตัว แค่ดึงเชือกแล้วรอ 5-8 นาที ควันขโมงฟู่ๆออกมาพร้อมกลิ่นหอมโชยทันที
หิวแค่ไหน ถามใจเธอดูว์~
รีวิวขบวน Hitachi ให้ดูเล็กน้อย ขบวนนี้มีไฟสถานะบอกด้วยว่าที่นั่งตรงไหนมีคนจองแล้ว ถ้าจองแล้วจะเป็นไฟเขียว เหลืองคือคนที่จองไว้กำลังจะมา ถ้าแดงคือว่าง เผื่อใครไม่ได้จองก็ดูสถานะตามไฟได้
อ่อ...ขบวนนี้มีที่เสียบปลั๊กไฟให้ด้วยนะ ชาร์จโทรศัพท์กันให้เรียบร้อย แล้วเอนเบาะงีบได้เลย
จากสถานี Katsuta สู่ Hitachi Seaside Park
เนื่องจากเป็นสถานีเล็กๆที่นักท่องเที่ยวมีจุดหมายไปสู่ที่เดียวกัน เพียงออกมาจากที่เสียบตั๋ว เลี้ยวซ้าย ก็พบกับเจ้าหน้าที่ยืนถือป้ายชี้ให้เดินออกทางขวามือทันที ลงบันไดเลื่อนไปจะเจอป้ายรถบัส และมีป้ายบอกว่าไป hitachi seaside park ให้เดินไปขึ้นที่ป้ายนี้นะ มีโต๊ะตั้งขายตั๋วพร้อม คนละ 400 เยน
ในป้ายบอกว่า วันนี้ค่าเข้าสวนฟรีด้วย โชคดีแฮะ ^^ (ปกติค่าเข้าสวนคนละ 410 เยน)
รอรถบัสประมาณไม่ถึง 10 นาที ใช้เวลายืนโหนบนรถประมาณ 15 นาที (แล้วแต่ว่ารถติดขนาดไหน) ก็มาลงที่ป้ายหน้าทางเข้าสวนได้เลย
บรรยากาศภายในสวน
เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์และเป็นช่วงใบไม้แดง จึงมีคนเยอะมากเป็นพิเศษ มองไปตรงไหนก็มีแต่คนจริงๆ ประกอบกับวันนี้อากาศดี คนญี่ปุ่นชอบพาสุนัขมาเดินเล่นและพาครอบครัวมาปิคนิคกัน เดินไปที่ไหนก็เจอน้องหมาหลากหลายพันธ์ุ น่ารักมากๆครับ
โซนแรกจะเจอทะเลสาบตรงกลาง และมี food truck ที่มีคนต่อคิวยาวแทบทุกร้าน
มาถึงโซนยอดฮิต ทั้งดอก Cosmos และ Kochia จัดเต็มจริงๆครับ
เดินขึ้นเขาถ่ายรูปไปเพลินๆ มาถึงบนสุดของเนินเขาจะมองเห็นชายฝั่งทะเล ลมแรง เย็นสบายมากๆครับ
โซนถัดไปเป็นสนามหญ้ากว้างใหญ่แบบสุดลูกหูลูกตา เหมาะสำหรับมาพักผ่อนกับครอบครัวอย่างแท้จริง เด็กๆวิ่งเล่นกันได้อย่างสบายใจครับ
รถไฟคุณปู่ก็มา เหมาะกับคนที่ไม่อยากเดิน ก็สามารถนั่งรถไฟชมรอบสวนได้ครับ
มองเห็นชิงช้าสวรรค์จากโซนสวนสนุก
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆที่น่าสนใจเช่น mini-golf, ปั่นจักรยาน (มีคอร์สปั่นจักรยานให้โดยเฉพาะ), จักรยานวิบาก (BMX)
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hitachi Seaside Park สามารถดูได้จากในเว็บไซต์นี้ได้เลยครับ http://en.hitachikaihin.jp/information.html
Ampmie's Tips:
- เนื่องจากสวนตั้งอยู่ติดชายฝั่งทะเล ลมจะแรงพอสมควร ใครขี้หนาวก็เตรียมเสื้อที่เน้นกันลมมาด้วย และระวังหมวกปลิว
- อย่าเดินเข้าไปในดงต้นไม้/ดอกไม้ เพราะจะทำให้สวนเสียหาย ให้ยืนถ่ายรูปเฉพาะตามทางเดินเท่านั้น คนเยอะต้องแย่งกันหามุมหน่อย แต่ก็ใจเย็นๆ อย่าเห็นว่าคนอื่นฝ่าฝืนแล้วตัวเองจะทำตามได้ (เท่าที่เจอคือไม่คนจีนก็คนไทยทั้งนั้นเลย)
- สวนใหญ่มาก และห้องน้ำแต่ละจุดจะเดินไกล แถมช่วง high season แบบนี้คิวจะยาวมาก แนะนำให้ศึกษาแผนที่แต่ละโซน หรือเข้าห้องน้ำตั้งแต่แรกๆเลยจะดีที่สุด
- มีบริการเช่าจักรยานและทางสำหรับปั่นจักรยานโดยเฉพาะ ถ้ามีเวลา แนะนำมากๆ
- จริงๆที่นี่เที่ยวได้ทุกเดือน สามารถตรวจสอบตารางของดอกไม้ที่จะปรากฏในแต่ละเดือนที่นี่ครับ http://en.hitachikaihin.jp/flower-calendar.html
ampmie152
http://ampmie152.blogspot.com
เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อกับจังหวัดอิบารากิสักเท่าไหร่ จังหวัดนี้อยู่ในภูมิภาคคันโต ติดชายฝั่งตะวันออกซึ่งไม่ไกลจากโตเกียวและชิบะนัก จึงเป็นที่นิยมสำหรับการจัด one-day trip ไปเช้า-เย็นกลับได้สบายมาก
อันที่จริงแล้วอิบารากินั้นมีพื้นที่กว้างใหญ่ ฝั่งขวาติดทะเลทั้งหมด ขึ้นชื่อในเรื่องธรรมชาติ ทุ่งดอกไม้ และน้ำตก ถ้าใครที่ชอบเที่ยวแนวธรรมชาติ ลองจัดทริปอยู่ที่อิบารากิสักคืนก็น่าสนใจทีเดียวครับ
การเดินทางจาก Tokyo สู่ Hitachi Seaside Park
จากสถานีโตเกียว สามารถใช้สาย JR Joban Line เพื่อเดินทางไปสู่สถานี Katsuta (勝田駅) ซึ่งใครจะขึ้นจาก Ueno ก็ทำได้เช่นกันครับ ครั้งนี้ผมเดินทางด้วยขบวน Limited Express "Hitachi" ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง 18 นาที
สำหรับใครที่ใช้ JR East Pass ทั้งหลาย สามารถจองได้เลย (แนะนำให้จองที่นั่งก่อน โดยเฉพาะช่วง high season และวันอาทิตย์แบบนี้)
มื้อเที่ยงวันนี้ แวะซื้อเอคิเบนขึ้นไปกินบนรถไฟซะเลย (คนในร้านเยอะมาก)
ได้ข้าวหน้าลิ้นวัวมาอย่างไม่ต้องคิดมาก เป็นกล่องแบบอุ่นได้ในตัว แค่ดึงเชือกแล้วรอ 5-8 นาที ควันขโมงฟู่ๆออกมาพร้อมกลิ่นหอมโชยทันที
หิวแค่ไหน ถามใจเธอดูว์~
รีวิวขบวน Hitachi ให้ดูเล็กน้อย ขบวนนี้มีไฟสถานะบอกด้วยว่าที่นั่งตรงไหนมีคนจองแล้ว ถ้าจองแล้วจะเป็นไฟเขียว เหลืองคือคนที่จองไว้กำลังจะมา ถ้าแดงคือว่าง เผื่อใครไม่ได้จองก็ดูสถานะตามไฟได้
อ่อ...ขบวนนี้มีที่เสียบปลั๊กไฟให้ด้วยนะ ชาร์จโทรศัพท์กันให้เรียบร้อย แล้วเอนเบาะงีบได้เลย
จากสถานี Katsuta สู่ Hitachi Seaside Park
เนื่องจากเป็นสถานีเล็กๆที่นักท่องเที่ยวมีจุดหมายไปสู่ที่เดียวกัน เพียงออกมาจากที่เสียบตั๋ว เลี้ยวซ้าย ก็พบกับเจ้าหน้าที่ยืนถือป้ายชี้ให้เดินออกทางขวามือทันที ลงบันไดเลื่อนไปจะเจอป้ายรถบัส และมีป้ายบอกว่าไป hitachi seaside park ให้เดินไปขึ้นที่ป้ายนี้นะ มีโต๊ะตั้งขายตั๋วพร้อม คนละ 400 เยน
ในป้ายบอกว่า วันนี้ค่าเข้าสวนฟรีด้วย โชคดีแฮะ ^^ (ปกติค่าเข้าสวนคนละ 410 เยน)
รอรถบัสประมาณไม่ถึง 10 นาที ใช้เวลายืนโหนบนรถประมาณ 15 นาที (แล้วแต่ว่ารถติดขนาดไหน) ก็มาลงที่ป้ายหน้าทางเข้าสวนได้เลย
บรรยากาศภายในสวน
เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์และเป็นช่วงใบไม้แดง จึงมีคนเยอะมากเป็นพิเศษ มองไปตรงไหนก็มีแต่คนจริงๆ ประกอบกับวันนี้อากาศดี คนญี่ปุ่นชอบพาสุนัขมาเดินเล่นและพาครอบครัวมาปิคนิคกัน เดินไปที่ไหนก็เจอน้องหมาหลากหลายพันธ์ุ น่ารักมากๆครับ
โซนแรกจะเจอทะเลสาบตรงกลาง และมี food truck ที่มีคนต่อคิวยาวแทบทุกร้าน
มาถึงโซนยอดฮิต ทั้งดอก Cosmos และ Kochia จัดเต็มจริงๆครับ
เดินขึ้นเขาถ่ายรูปไปเพลินๆ มาถึงบนสุดของเนินเขาจะมองเห็นชายฝั่งทะเล ลมแรง เย็นสบายมากๆครับ
โซนถัดไปเป็นสนามหญ้ากว้างใหญ่แบบสุดลูกหูลูกตา เหมาะสำหรับมาพักผ่อนกับครอบครัวอย่างแท้จริง เด็กๆวิ่งเล่นกันได้อย่างสบายใจครับ
รถไฟคุณปู่ก็มา เหมาะกับคนที่ไม่อยากเดิน ก็สามารถนั่งรถไฟชมรอบสวนได้ครับ
มองเห็นชิงช้าสวรรค์จากโซนสวนสนุก
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆที่น่าสนใจเช่น mini-golf, ปั่นจักรยาน (มีคอร์สปั่นจักรยานให้โดยเฉพาะ), จักรยานวิบาก (BMX)
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hitachi Seaside Park สามารถดูได้จากในเว็บไซต์นี้ได้เลยครับ http://en.hitachikaihin.jp/information.html
Ampmie's Tips:
- เนื่องจากสวนตั้งอยู่ติดชายฝั่งทะเล ลมจะแรงพอสมควร ใครขี้หนาวก็เตรียมเสื้อที่เน้นกันลมมาด้วย และระวังหมวกปลิว
- อย่าเดินเข้าไปในดงต้นไม้/ดอกไม้ เพราะจะทำให้สวนเสียหาย ให้ยืนถ่ายรูปเฉพาะตามทางเดินเท่านั้น คนเยอะต้องแย่งกันหามุมหน่อย แต่ก็ใจเย็นๆ อย่าเห็นว่าคนอื่นฝ่าฝืนแล้วตัวเองจะทำตามได้ (เท่าที่เจอคือไม่คนจีนก็คนไทยทั้งนั้นเลย)
- สวนใหญ่มาก และห้องน้ำแต่ละจุดจะเดินไกล แถมช่วง high season แบบนี้คิวจะยาวมาก แนะนำให้ศึกษาแผนที่แต่ละโซน หรือเข้าห้องน้ำตั้งแต่แรกๆเลยจะดีที่สุด
- มีบริการเช่าจักรยานและทางสำหรับปั่นจักรยานโดยเฉพาะ ถ้ามีเวลา แนะนำมากๆ
- จริงๆที่นี่เที่ยวได้ทุกเดือน สามารถตรวจสอบตารางของดอกไม้ที่จะปรากฏในแต่ละเดือนที่นี่ครับ http://en.hitachikaihin.jp/flower-calendar.html
ampmie152
http://ampmie152.blogspot.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น