[TRA018] เที่ยว Chūgoku ตอนที่ 2: ปั่นจักรยานเที่ยวเมือง Shimonoseki
เที่ยว Chūgoku ตอนที่ 2: ปั่นจักรยานเที่ยวเมือง Shimonoseki
(อ่านตอนที่ 1: Shimonoseki สุดขอบตะวันตกของเกาะฮอนชู คลิกที่นี่)
สวนดอกไม้ที่ Hinoyama, Shimonoseki |
วันรุ่งขึ้น หลังทานอาหารเช้าเสร็จก็เก็บกระเป๋าและเช็คเอาท์ เดินทางมาสถานี JR Shimonoseki ด้วยรถตู้ของทางโรงแรม เราจะฝากสัมภาระไว้ที่ coin locker ที่สถานี JR Shimonoseki เพื่อที่จะเช่าจักรยานปั่นไปเที่ยวตามจุดสำคัญต่างๆในเมือง
(สถานีนี้มี coin locker ค่อนข้างเยอะ ถ้าไซส์ S กับ M ไม่มีปัญหาเรื่องตู้เต็ม ส่วนไซส์ L ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมีประมาณ 4-6 ตู้ ซึ่งถ้ามาตอนเช้าก็ยังโล่งอยู่เพียบครับ)
ไม่ต้องห่วงทำกุญแจตู้ล็อคเกอร์หาย เพราะตู้ที่นี่ปลดล็อคโดย passcode ถ่ายรูปสลิปไว้ก่อนเลย |
สำหรับที่เช่าจักรยาน ผมลองเดินเข้าไปถาม tourist information จึงทราบมาว่าบริการจักรยาน Ekirin-kun ของ JR นั้นจะอยู่บริเวณเดียวกับที่เช่ารถยนต์ของ JR (ออกจากสถานีแล้วเดินมาทางขวา)
แน่นอนว่าฟรีตลอดวันครับ เพียงแค่แสดง JR West Pass พร้อม passport พนักงานก็จะช่วยแนะนำการใช้จักรยานให้เป็นอย่างดี (พนักงานใจดีมาก ไปหาแผนที่และแนะนำเส้นทางปั่นให้เราด้วย แถมยังคุยว่าแกเคยไปเที่ยวประเทศไทยมาแล้วด้วย)
จากสถานีเราปั่นออกไปเส้นเลียบฝั่งติดทะเล ผ่าน Kaikyokan (aquarium ที่แวะเที่ยวเมื่อวาน) ผ่านตลาดปลา Karato (ถ้ามาช่วงศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จะมีร้านซูชิในตลาดเปิด) มาไม่นานนักก็จะถึงจุดหมายแรกอยู่ฝั่งซ้ายมือคือ ศาลเจ้า Akama (Akama Jingū Shrine 赤間神宮) จะสังเกตเห็นซุ้มประตูขนาดใหญ่สีแดงได้แต่ไกลๆ
ต้นซากุระที่หน้าทางเข้า Akama Jingū Shrine |
Akama Jingū Shrine |
หลังจากเข้าไปเยี่ยมชมและแวะขอพรแล้ว เราก็ปั่นตรงไปเส้นเดิมจะลอดผ่านใต้สะพาน Kanmon (関門橋, Kanmonkyō) ซึ่งเป็นสะพานแขวนที่เชื่อมระหว่างเกาะฮอนชูและเกาะคิวชู มีความยาวถึง 1,068 เมตร
Mimosusogawa Park, Shimonoseki |
ปั่นมาอีกไม่ไกลก็จะเจอกับสวน Mimosusogawa เล็กๆที่อยู่ติดชายฝั่ง มีจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจคือ Dannoura Battlefield Site แสดงถึงบริเวณนี้ที่เคยเป็นสนามรบทางเรือในสงคราม Genpei สมัยยุคเฮอัน
Dannoura Battlefield Site, Shimonoseki |
ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับสวน จะเห็นทางซุ้มประตูทางเข้าเพื่อขึ้นไป Hinoyama (火の山) ซึ่งเป็นจุดชมวิวบนเขา ระหว่างทางเดินขึ้นจะเจอถนนที่มีต้นซากุระให้แวะถ่ายรูปได้เพลินๆ
ซุ้มทางเดินขึ้น Hinoyama |
ระหว่างทางเดินขึ้นไปสู่ Hinoyama Ropeway |
แวะพักถ่ายรูปต้นซากุระสวยๆ |
Cherry Blossom at Hinoyama, Shimonoseki |
Cherry Blossom at Hinoyama, Shimonoseki |
จากนั้นจะขึ้นมาเจอสถานี ropeway ถ้าเดินเลยไปทางขวาจะเจอสวนดอกไม้หลากหลายสี ถึงแม้แดดจะแรงแต่ก็ยังมีผู้คนออกมาปูเสื่อนั่งชมดอกไม้กันเยอะทีเดียว
สวนดอกไม้ที่ Hinoyama, Shimonoseki |
สวนดอกทิวลิป Hinoyama, Shimonoseki |
Hinoyama Ropeway, Shimonoseki |
Hinoyama Viewpoint, Shimonoseki |
เรากลับลงมาทางเดิมที่บริเวณสวน Mimosusogawa ฝั่งตรงข้ามจะมีลิฟต์ให้ลงไปชั้นใต้ดิน เพื่อที่จะลองเดินลอดอุโมงค์ใต้ทะเล Kanmon Pedestrian Tunnel (関門トンネル人道) มีระยะทาง 780 เมตร เชื่อมระหว่างสองฝั่ง นั่นหมายความว่าเราสามารถเดินข้ามฝั่งไปโผล่ที่เมือง moji ฝั่ง fukuoka ได้เลย
จุดที่เป็นไฮไลท์ก็คือ การเดินไปถ่ายรูปที่เส้นแบ่งเขตระหว่างจังหวัดยามะกูจิและจังหวัดฟุกุโอกะนั่นเอง
(เดินผ่านอุโมงค์ไม่มีค่าใช้จ่าย ถ้าจะนำจักรยานผ่านไปด้วยจะเสียเที่ยวละ 20 เยน)
อุโมงค์สำหรับคนเดิน Kanmon จากฝั่ง Shimonoseki |
เส้นแบ่งเขตระหว่างเกาฮอนชูและคิวชู ฝั่งซ้ายคือจังหวัด Yamaguchi ฝั่งขวาคือจังหวัด Fukuoka |
และถือเป็นจุดสุดท้ายของการแวะเที่ยวในเมือง shimonoseki เราปั่นจักรยานตรงดิ่งกลับมาที่สถานี jr shimonoseki เพื่อคืนจักรยาน และหามื้อกลางวันทานที่ห้างไดมารูบริเวณสถานี มื้อสุดท้ายของเมืองนี้ทั้งที ก็ต้องขอลองชิมเมนูปลาปักเป้าของขึ้นชื่อของเมืองสักหน่อย
fugu lunch set ราคาประมาณ 2 พันกว่าเยน จะได้ลองชิมปลาปักเป้าแบบทั้งซาชิมิ, เทมปุระ, และต้มซุป |
หลังจากทานเสร็จก็เดินกลับไปเอากระเป๋าที่สถานี สำหรับจุดหมายปลายทางถัดไป เราจะนั่งรถไฟ shinkansen มุ่งสู่เมืองยามะกุจิ (Yamaguchi)
(ติดตามตอนต่อไป~)
ampmie152
http://ampmie152.blogspot.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น