หากพูดถึงการไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว Chūgoku น่าจะเป็นอีกหนึ่งภูมิภาคที่คนไทยยังไม่ค่อยคุ้นเคยเป็นอันดับต้นๆ (น่าจะรองจากภูมิภาค Shikoku)
ภูมิภาค Chūgoku ตั้งอยู่บริเวณตะวันตกหรือฝั่งซ้ายสุดของเกาะฮอนชู หรืออธิบายได้ง่ายๆว่าอยู่ระหว่างคิวชูและคันไซนั่นเอง
ความน่าสนใจของภูมิภาคนี้คือมีพื้นที่กว้างใหญ่และอาณาเขตติดกับทะเลค่อนข้างมาก เป็นส่วนที่ติดกับทะเล Seto ซึ่งอุดมไปด้วยท่าเรือหลักที่สำคัญต่อการค้าขายระหว่างทั้ง 3 เกาะของญี่ปุ่น
ริมฝั่งทะเลของเมือง Shimonoseki มองเห็นสะพาน Kanmonkyo (関門橋) ที่เชื่อมระหว่างเกาะฮอนชูและเกาะคิวชู
สำหรับโปรแกรมแรกของทริปนี้ ผมเริ่มจากเมือง
ชิโมโนเซกิ (Shimonoseki - 下関市) ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน
จังหวัดยามากุจิ (Yamaguchi - 山口県 ) มีที่ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายสุดของเกาะฮอนชู สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆจึงมีบรรยากาศริมทะเลและลมแรงตลอดเวลา นอกจากนี้เรายังสามารถมองเห็นฝั่งคิวชูได้อีกด้วย
Kaikyō Yume Tower (海峡ゆめタワー) หอชมวิวประจำเมืองเมืองชิโมโนเซกิ
เดินทางจากสนามบิน Fukuoka มาขึ้น Shinkansen ที่สถานี Hakata ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็มาเปลี่ยนสาย local ที่ Kokura จากนั้นรถไฟจะวิ่งข้ามทะเลมาถึงสถานี Shimonoseki
เดินจากสถานีไปไม่ไกลเพื่อนำสัมภาระไปฝากไว้ที่โรงแรมก่อน จากนั้นจึงเดินต่อไปยังจุดหมายแรกของเราคือ
Kaikyokan (海響館) เป็น aquarium ขนาดใหญ่ หนึ่งในจุดสำคัญที่ควรมาเยี่ยมชมหากได้มีโอกาสมาเยือนเมืองนี้ เพราะไฮไลท์ของเมืองนี้และจังหวัด Yamaguchi ก็คือปลาปักเป้านั่นเอง
ทางเดินจากโรงแรมไปสวนสนุกและ aquarium ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร
เจอสวนสนุกเล็กๆริมทะเลและชิงช้าสวรรค์สำหรับชมวิว
รถบัสสองชั้นสไตล์ลอนดอน
ที่นี่ เราจะได้เห็นปลาปักเป้าหลากหลายสายพันธ์ุ นอกจากนี้ยังมีโชว์ทั้งแมวน้ำ เพนกวิน และโลมา (ดูบรรยากาศเต็มๆได้จากคลิปตอนท้ายบทความ)
หากมี JR West pass สามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดค่าเข้าชมได้อีกด้วย
ทางเดินเข้าสู่ aquarium ด้านใน ถูกต้อนรับด้วยฝูงปลาขนาดใหญ่รอบอุโมงค์
รวมมิตรฝูงปลาในตู้เดียว
อุ๋งอุ๋งงงงเป็นคนขี้อ้อนน~
โครงกระดูกปลาวาฬขนาดเท่าของจริง
กองทัพเพนกิ้นๆ
โชว์โลมาและสิงโตทะเล
วิวจากบริเวณด้านนอก aquarium
ตอนเย็น ออกมาเดินเล่นบริเวณสถานี จะสังเกตเห็นว่ามีท่าเรือด้วย ซึ่งถ้าเดินออกจากท่าเรือมาก็จะมีทางเดินลอยฟ้าเชื่อมเข้าสู่สถานีรถไฟได้ทันที นอกจากนี้ทางเชื่อมยังครอบคลุมไปถึงฝั่งเหนือของสถานี ซึ่งจะมีถนนช้อปปิ้ง Korean Town อยู่ด้วย (Green Mall)
ทางเชื่อมกับท่าเรือ Shimonoseki Port International Terminal สามารถนั่งเรือข้ามไป Busan ได้เลยนะ ใช้เวลา 10 ชม. 45 นาที
จากฝั่งท่าเรือ เดินบนทางเชื่อมข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม เราจะแวะ
ศาลเจ้าโอโตชิ (大歳神社) เพราะมองเห็นต้นซากุระใหญ่ตั้งแต่ระยะไกล
ทางขึ้นศาลเจ้าโอโตชิ
ต้นซากุระขนาดใหญ่บริเวณศาลเจ้า
(สักพักมีคนลากเก้าอี้มานั่งกับโต๊ะตัวเล็กๆนั่น แล้วเปิดเบียร์กินสบายใจเฉิบ)
ชมซากุระยามเย็น
หากใครชอบปั่นจักรยานเที่ยว เมืองนี้ถือว่าเหมาะอย่างยิ่ง เพราะ
เมืองนี้ทำเลนจักรยานไว้กว้างระดับที่ปั่นสวนกันได้ในเลนเดียว มีสีและสัญลักษณ์ที่ชัดเจน และมีที่กั้นเลนให้เกือบตลอดทาง จึงไม่แปลกใจเลยหากในช่วงค่ำ เวลาที่ผู้คนเดินทางกลับบ้าน แต่กลับแทบไม่เห็นรถส่วนตัววิ่ง เพราะการออกแบบเมืองที่เป็นมิตรต่อการเดินและใช้จักรยานนั่นเอง (น่าเสียดายที่บางประเทศกลับทำในสิ่งตรงข้ามกัน)
โรงแรม Dormy Inn Shimonoseki อยู่ใกล้ๆกับหอชมวิว Kaikyo Yume Tower
ตอนกลางคืนเปิดไฟแล้วดูสวยไปอีกแบบ
บริเวณสถานีรถไฟจะมีห้างใหญ่ 2-3 แห่งอยู่ติดกัน หากใครต้องการช้อปปิ้งหรือหาร้านอาหารก็ให้มาที่สถานีน่าจะตอบโจทย์ได้ครบหมด แต่เมืองในต่างจังหวัดแบบนี้ แค่ 2 ทุ่มเขาก็ปิดร้านกลับบ้านกันหมดแล้วครับ (ห้างไดมารูปิดประตูไม่ให้เข้าตั้งแต่ทุ่มครึ่ง) แต่หากไม่รู้จะทานอะไรก็ยังมีซุปเปอร์มาร์เก็ตตรงทางออกสถานี เวลาแบบนี้ก็มีอาหารราคาถูก ลดราคาเพียบให้เลือกสรร
ซื้อของกินติดไม้ติดมือกลับมากินที่โรงแรมเล็กน้อย เพราะตอน 3 ทุ่มครึ่ง โรงแรมจะมีราเม็งให้กินฟรีด้วย โรงแรมนี้คือ
Dormy Inn นั่นเอง มีจุดเด่นคือ
การตกแต่งที่ทันสมัย ราเม็งฟรี และออนเซ็นที่บรรยากาศดีมาก (ออนเซ็นที่นี่จะมีบ่อกลางแจ้ง ซึ่งมองเห็นทะเลและฝั่งคิวชูได้เลย)
ราเม็งฟรีที่ห้องอาหารโรงแรม ตอน 3 ทุ่มครึ่ง เป็นโชยุราเม็งแบบเบสิคๆ ใส่สาหร่าย หน่อไม้และต้นหอม อร่อย กลมกล่อมมาก
(รู้งี้น่าจะซื้อหมูชาชูกับไข่ต้มจากซุปเปอร์มาด้วย ไหนๆจะกินแล้วต้องเอาให้สุด)
ปกติเชน Dormy Inn จะราคาค่อนข้างสูงกว่าเชน business hotel ทั่วไป แต่สำหรับที่ Shimonoseki นั้น ราคาไม่แพงมากและทำเลก็ถือว่าดี นอกจากนี้ยัง
มีรถตู้ไปส่งที่สถานีตอนเช็คเอาท์ ให้ด้วยครับ
ตารางเวลารถตู้ไปส่งฟรีที่สถานี Shimonoseki ตอนเช้า
จบทริปสำหรับวันแรก ตอนต่อไปจะพาไปขี่จักรยานเที่ยวจุดสำคัญต่างๆ
ส่วนถ้าใครอยากชมบรรยากาศ Kaikyokan แบบเต็มๆ ลองชมคลิปด้านล่างนี้ที่ผมถ่ายเก็บเอามาฝากไว้ได้เลยครับ
(อ่านตอนถัดไป ตอนที่ 2: ปั่นจักรยานเที่ยวเมือง Shimonoseki
คลิกที่นี่ )
VIDEO
ampmie152
http://ampmie152.blogspot.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น