[LIF004] เป้าหมายปี 2019 (My New Year’s Resolution)
สวัสดีปีใหม่ 2019 นะครับ นี่คือบทแรกของปีนี้
สิ่งที่ผมเห็นความแตกต่างจากหลายๆปีใหม่ที่ผ่านมา ผมรู้สึกว่าผู้คนมักจะตื่นตัวเรื่อง New Year’s Resolution มากกว่าปีก่อนๆอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะว่าทุกวันนี้เราใช้ social media กันอย่างแพร่หลาย การสร้าง list หรือ post ที่แชร์ให้คนอื่นได้อ่านความตั้งใจของเรานั้นทำได้ง่ายมากขึ้น
ส่วนตัวผมเองก็ยังคงหาโอกาสกลับมาเขียนเรื่องราวของตัวเองใน blog นี้เช่นเคย
แม้ช่วงหลังนี้จะยุ่งมากจนแทบไม่ได้มาอัพเดทเสียเท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้กลับมาเขียนนะครับ (ใครทันสมัยผมเขียนไดอารีใน storythai บ้างหนอ? ยกมือให้ดูหน่อยสิ)
...
ปกติแล้วผมจะไม่ค่อยแชร์เรื่องการตั้งเป้าหมายในแต่ละปีให้กับใครๆ
หากใครอยากรู้อยากคุยเรื่องนี้ด้วย มักจะอยู่แค่ในวงเหล้ากับเพื่อนๆเท่านั้นครับ
และเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ผมก็ได้ค้นพบวิธีที่จะติดตาม progress ของการทำตามเป้าหมายที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง นั่นคือการเขียนใส่ post-it แล้วแปะมันไว้ที่ผนังของห้องนอนนั่นเองครับ
มันจะหลอกหลอนเราอยู่ทุกวัน และทุกครั้งที่เรามาอัพเดทความคืบหน้า เราก็จะได้เห็นเป้าหมายอื่นๆเพื่อย้ำเตือนตัวเองเรื่อยๆ
สำหรับผมแล้ว วิธีนี้นั้นเรียบง่ายและได้ผลดีกว่าการใช้ app ใดๆเลยครับ
...
เกรื่นมานานพอสมควร มาเริ่มพูดถึงเป้าหมายที่ผมตั้งในปี 2019 นี้ดูดีกว่า
หลักๆแล้วยังคงยึดตามหมวดหมู่เดิมที่ผมยึดไว้จากปีก่อน ได้แก่
- การออมและการลงทุน
- สุขภาพ
- ดนตรี
- การศึกษาและความรู้
การออมและการลงทุน
- สินทรัพย์สุทธิ (Net Asset Value) เติบโต +20%
- ยังคงเป็นเป้าหมายหลักที่ยังคงไว้จากปีที่ผ่านๆมา ปีที่แล้วทำได้ 20% นิดๆ(ไม่รวมรายการพิเศษ) ตามที่ได้ตั้งเป้าไว้แม้พอร์ตหุ้นจะลงมาเยอะกว่าที่คาดไว้ก็ตาม ปีนี้ยังคงเป้าให้โตได้เหมือนเดิม อย่าลืมว่าฐานที่ใหญ่ขึ้นก็ยิ่งท้าทายมากขึ้นครับ สิ่งหนึ่งที่วัดความมั่นคงของการเติบโตได้คือการกระจายความเสี่ยงและ re-balance asset type ต่างๆ น่าจะเป็นกุญแจสำคัญในภาวะตลาดแบบนี้
- หักเงินเพื่อการออมและลงทุน 20% ของรายได้ในทุกๆเดือน
- เป็นอีกนโยบายหนึ่งที่ช่วยให้มีโอกาสบรรลุเป้าหมายข้อด้านบนได้มากขึ้น หากผลตอบแทนการลงทุนไม่ติดลบในปีนี้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาครับ
- ตั้ง budget สำหรับค่าใช้จ่ายแต่ละหมวดหมู่
- ปกติผมเป็นคนที่จดบันทึกรายรับรายจ่ายอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว แต่ยังรู้สึกว่าแค่การจดบันทึกแล้วกลับมาทบทวนนั้นยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอให้เกิดการบังคับตัวเองได้อย่างแท้จริงครับ มาตรการหนึ่งที่จะเข้ามาเสริมในปีนี้คือการกำหนดงบประมาณของค่าใช้จ่ายแต่ละหมวดหมู่ให้ชัดเจนไปเลย เช่น ค่ากิน เดือนหนึ่งไม่เกิน xxxxx บาท หากเหลือจะสามารถนำไปทบกับเดือนหน้าได้ หรือสามารถนำไปทบส่วนการท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้ แต่แน่นอนว่าต้องมี budget ส่วนเก็บออมและลงทุนสำหรับทุกเดือนที่ต้องจัดให้ครบก่อน และปีนี้อยากเพิ่มเป้าหมายในการบริจาคให้ได้ตามเป้าด้วยครับ
- ชนะตลาดหุ้นอย่างน้อย 10%
- การลงทุนในตลาดหุ้นยังคงเป็นสัดส่วนมากที่สุดของสินทรัพย์ทั้งหมด ดังนั้นหากจะวัดผลตัวเองว่าทำได้ดีแค่ไหน ก็จำเป็นจะต้องชนะตลาดหุ้นให้ได้ทุกปีครับ (ไม่อย่างงั้นแล้วก็เอาเวลาศึกษาหุ้นไปทำอย่างอื่นแล้วซื้อกองทุนอย่างเดียวเลยจะดีกว่า) ปีไหนตลาดหุ้นขึ้นเท่าไหร่ก็ต้องขึ้นมากกว่า หรือปีไหนตลาดลงก็ต้องลงน้อยกว่า สำหรับผมแค่ 10% ก็เป็นที่น่าพอใจ (แต่ไม่ใช่ +-1,000 bspนะ!)
- คงสัดส่วนการลงทุนต่างประเทศไว้ที่ 10% ของสินทรัพย์ทั้งหมด
- ปีที่แล้วเริ่มออกไปเวียดนามครั้งแรก ยังตั้งเป้าว่าจะคงสัดส่วนให้ได้ 10% แต่หากปีนี้เริ่มเห็นทิศทางที่ชัดเจนขึ้น อาจจะเริ่มขยับขึ้นเป็น 15% ดูครับ มากกว่านี้น่าจะยีงเสี่ยงเกินไปกับความรู้ในตอนนี้
สุขภาพ
- ออกกำลังกายอย่างน้อยเดือนละ 9 ครั้ง
- ขึ้นมาจากเดือนละ 8 ครั้งในปีที่แล้ว พอเริ่มต้องซ้อมวิ่งก็ทำให้เริ่มติดกับการที่ต้องออกกำลังให้สม่ำเสมอไปแล้วล่ะครับ
- วิ่งระยะทางรวม 700 km.
- ปีที่แล้วทำได้เกิน 500 km. แล้ว ปีนี้ขยับขึ้นมาเป็น 700 km. และไม่ควรจะเยอะไปกว่านี้มากนักแล้ว เพราะต้อง balance เวลากับ weight และ cross-training ด้วยครับ
- คุมน้ำหนักให้อยู่ประมาณ 69 kg.
- ปีที่แล้วตั้งไว้ 68 เหมือนจะไม่เคยแตะจุดนั้นได้เลย น่าจะยากเกินไปเพราะไม่ได้คุมอาหารเท่าที่ควร ปกติเป็นคนกินเยอะและมีความสุขกับการกินมากๆครับ ดังนั้นถ้าลงมา 69 ได้ ก็ถือว่าพอใจและโอเคกับ bmi แล้วครับ
- ทำอาหารอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
- หมดข้ออ้างของความขี้เกียจอย่างแท้จริง ทำกินเองนอกจากจะสะอาดปลอดภัยแล้วยังได้ลองอะไรสนุกๆกับสิ่งที่เราชอบด้วย แต่ไม่ค่อยประหยัดเท่าไหร่เพราะเรามักจะซื้อวัตถุดิบดีๆมาทำนี่แหละ
ดนตรี
- อัดเพลงลง YouTube สัก 1 เพลง
- พยายามจะไม่ให้มันหายไป น่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้คอยหาเวลาซ้อมได้บ้าง
- หาเพื่อนมาแจมอัดเพลงสัก 1 เพลง
- หาเวลามาแจมกันเถอะ!
การศึกษาและความรู้
- อ่านหนังสือทั่วไป 5 เล่ม อ่านหนังสือเรื่องการลงทุน 3 เล่ม
- ปีก่อนเอาเป้าหมายเรื่องการอ่านหนังสือออก เพราะใช้เวลาส่วนใหญ่กับการอ่านหนังสือ(ความรู้ บทความ ฟัง ดูคลิป)ในอินเตอร์เน็ตมากกว่า ปีนี้จะกลับมาลองดูอีกครั้ง เพราะเจอสิ่งที่อยากรู้ในรูปแบบหนังสือมากขึ้นล่ะครับ
- สอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น N4
- ปีที่แล้วสอบ N5 ผ่านแล้ว ปีนี้จะขอลอง N4 ดู สำหรับคนที่ห่างหายไปนาน ไม่ได้ใช้ ไม่ได้เรียนเพิ่ม ต้องอ่านและฝึกเองก็ยากพอสมควรครับ แต่จะไม่กดดันตัวเองว่าต้องผ่าน แต่อยากลงสอบไว้เพื่อกดดันให้ต้องอ่านมากกว่า
- อบรมต่ออายุ IC License
- จดไว้กันลืมละกันครับ
- ดู Oppday 50 บริษัท
- พยายามบังคับตัวเองให้ดูบริษัทที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อไม่ให้ bias กับบริษัทอื่นๆและบริษัทที่ลงทุนอยู่ครับ
- อ่านรายงานประจำปี 10 บริษัท
- ใช้ความพยายามมากขึ้นกว่า Oppday โดยคัดเลือกบริษัทที่น่าสนใจและอยากจะเิร่มลงทุน
- เขียน blog 12 ตอน
- เฉลี่ยเดือนละ 1 ตอน (นี่ก็ไปแล้ว 1 ...เย้) ถ้าไม่ขี้เกียจนี่จริงๆมีอะไรจะเขียนเยอะมาก แค่เที่ยวญี่ปุ่นนี่ก็ขุดมาไม่หมดแล้วครับ
...
ลองดูไว้เป็นไอเดีย เผื่อใครจะนำไปตั้งเป้าหมายของตัวเองในปีนี้บ้างก็ยินดีนะครับ
ไม่สำคัญว่าเราต้องไปเก่งหรือแข่งกับใคร
ค่อยๆพัฒนาไปในรูปแบบที่เหมาะสมและมีความสุขกับตัวเองคือสิ่งที่สำคัญกว่า
ชนะใจตนเองให้ได้ คือสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตทั่วไป
ถ้าเราไม่พัฒนาตัวเอง เราก็คงไม่แตกต่างกับซอมบี้น่ะสิครับ!
พยายามไปด้วยกันนะครับทุกคน.
ampmie152.
ampmie152.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น