Please support me!

หากชอบใจบทความของผม โปรดสนับสนุนค่ากาแฟเพื่อเป็นกำลังใจนะครับ คลิกที่นี่

137


ไดอารีที่รัก...

เวลา 12.38น. 
วันนี้ผมเดินไปทานอาหารกลางวันที่ร้านข้าวแกงเล็กๆ ไม่ไกลจากออฟฟิศ
เนื่องด้วยเวลาที่ล่วงเลยไปนานพอสมควรจากเลข 12 
ทำให้กับข้าวตามร้านต่างๆแถวนี้ ที่จะต้องรองรับพนักงานบริษัทมากมายนั้นหมดลงอย่างไม่ต้องแปลกใจ

...

ร้านข้าวแกงร้านนี้ปกติคุณป้าเจ้าของร้านก็จะทำกับข้าวไม่เยอะมากนัก
ผมเคยเห็นมากสุดจะมีประมาณ 3-4 อย่าง
และมีถาดวางไข่ดาว กุนเชียง หมูยอทอด อะไรที่กินง่ายๆให้เลือกเสริมอยู่เป็นประจำ

สำหรับร้านนี้ ผมเคยกินมาหลายครั้งแล้ว
บางครั้งก็ชอบ ที่รสชาติถือว่าดี และข้าวสวยที่ร้อนๆ รู้สึกว่าข้าวที่ร้านนี้อร่อยดี
บางครั้งก็ไม่ชอบ เพราะเคยมีครั้งหนึ่ง สั่งกับสองอย่าง ป้าแกตักอย่างนึงให้ ผมก้มลงกำลังจะหยิบเงิน
เงยหน้ามาอีกที ป้ายื่นจานมาให้ แล้วผมอึ้งไปสักพัก เพราะกับข้าวอย่างที่สองมันน้อยมากจนผมเข้าใจผิดว่าป้ายังไม่ได้ตักอย่างที่สอง

เอาน่า...ก็เจ๊าๆกันไป
แต่สิ่งที่ผมอยากจะหยิบมาพูดถึงคือเรื่องเล็กๆต่อไปนี้มากกว่าครับ...




ในทุกๆวัน ร้านนี้จะมีโถใหญ่ๆ 2 โถ วางเรียงตัวต่อจากถาดกับข้าวเสมอๆ
โถแรก คือผักสด สิ่งที่มีทุกวันคือ แตงกวา บางวันมีผักกาดหอมและถั่วฝักยาว พร้อมที่คีบวางบนสุด
โถที่สอง คือ กากหมูผัดพริกเผา พร้อมทัพพีวางบนสุด

ไอ้โถผักสดนี่พอจะใช้วิจารณญานได้ว่า ทางร้านมีบริการให้ทานฟรี
และผมก็ชอบมากเสียด้วย เพราะแตงกวาร้านนี้ สด กรอบ อร่อยมากครับ
ปกติผมเป็นคนที่ไม่ชอบกินแตงกวาสักเท่าไหร่ แต่พอกินของร้านนี้รู้สึกว่ามันอร่อยมากเลย
กินคู่กับกับข้าวที่เป็นผัดเผ็ด ยิ่งข้าวสวยร้อนๆ ก็ต้องมีแตงกวาแกล้มนี่แหละ

ส่วนอีกโถเนี่ย ผมดูๆแล้วมันน่าจะเป็นกับข้าวอีกอย่าง แต่ในใจก็แอบคิดว่า 
"เอ…อันนี้ก็ตักฟรีรึเปล่าน้าา???"
จนวันหนึ่ง ขณะที่ผมกำลังคีบผักอยู่ ป้าแกก็เชิญชวนขึ้นมาเองเลยครับ "อันนี้ตักทานได้เลยนะหนู"

เท่านั้นแหละครับ...

ผมมองไปรอบๆตัว เมื่อเห็นว่าไม่มีคนอื่นมายืนกดดัน ประกอบกับช่วงเวลานั้นที่ใกล้จะเก็บร้านแล้ว
ผมก็เลยจ้วงกากหมูผัดพริกเผาแบบไม่ยั้ง รู้สึกตัวอีกทีก็ …โอ้โห เยอะไปละ

อันนี้เป็นอะไรที่ชอบมากครับ
ผมรู้สึกว่าสำหรับร้านอาหารแบบนี้ การแถมอะไรเล็กๆน้อยๆ มันได้ใจผู้บริโภคได้อย่างมากมาย
เช่น บางร้านก็แถมน้ำซุปแบบให้เดินมาตักเองได้เลย หรือแม้แต่น้ำชาให้ทานฟรี ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็หายากมากๆแล้วในสภาพของแพงเช่นปัจจุบันนี้
หรืออย่างร้านก๊วยเตี๋ยวบางร้าน แถมน้ำซุปกระดูกหมูแบบว่าแทะกันจนคุ้ม 
หรือถ้าเราคุยกับคนขายถูกคอ แกจะแถมเกี๊ยวกรอบมาให้เยอะกว่าปกติ

...

โอ๊ะ…ย้อนกลับมาเรื่องของวันนี้ก่อนครับ
ผมเดินมาต่อคิวที่ร้านข้าวแกงร้านเดิม
กับข้าวตอนนี้เหลือแค่ผัดกระเพราไก่อย่างเดียว และรอข้าวสวยที่กำลังหุงหม้อใหม่ใกล้จะสุก
เมื่อป้าเห็นว่า พวกที่ยืนต่อคิวนี้น่าจะเป็นล็อตสุดท้ายแล้ว
ป้าแกจึงตักต้มเลือดหมู ที่เหลืออยู่ในหม้ออีกไม่มาก (แต่ก็ได้ตั้ง 4-5 ชาม) ออกมาเชิญชวนให้หยิบไปกินฟรีเลยจ้า

สำหรับการแถมครั้งนี้ มักจะเป็นเรื่องปกติสำหรับร้านที่ใกล้จะปิด หรือกำลังจะขายหมด
เหล่านักกินจุทั้งหลายก็เข้าใจดีว่า ต้องเล็งโอกาสไปช่วงที่ร้านใกล้จะปิด แล้วจะได้แถมของกินมาเยอะๆ
แต่ก็ถือเป็นการวัดดวงอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าช้าไป ก็อาจจะไม่ทัน หรือเร็วไป ก็อาจจะยังไม่แถมให้ก็ได้นะ

ระหว่างนั่งซดต้มเลือดหมูก้นหม้อ(ซึ่งอร่อยด้วย) มันก็พลางทำให้ผนึกถึงสมัยมัธยมต้นครับ
สมัยนั้นกินข้าวที่โรงอาหารของโรงเรียน จะมีร้านอาหารญี่ปุ่น 
แนวๆพวกข้าวหน้าหมูทอด ข้าวไก่คาราเกะ ข้าวสเต็กหมู เกี๊ยวซ่า แกงกระหรี่
ซึ่งสมัยนั้นเมนูพวกนี้เป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับวัยรุ่นมากครับ
เวลาสั่งก็มักจะอดไม่ได้ที่จะต้องเพิ่มไก่ทอด เพิ่มไข่ดาว เพิ่มเกี๊ยวซ่า จนเต็มจานไปหมด
เป็นที่มาให้ทางร้านมีขายเมนูที่เรียกว่า คอมโบ คือเป็นที่รู้กันว่าจะใส่หลายๆอย่างให้เลย
ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักเรียนเวลาสั่งก็สั่งคอมโบกันยกใหญ่

และก็แน่นอนว่าร้านนี้จะเป็นร้านที่คนต่อคิวยาวมากๆครับ
แต่หากวันไหนลงมาทานอาหารกลางวันช้า ช่วงใกล้ๆจะหมดเวลาพักเที่ยง
ร้านอาหารญี่ปุ่นนี้ก็เป็นร้านหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องแถมมากๆ
บางทีแกจะแถมทุกอย่างเลย บางทีก็ไก่ทอด บางทีก็เกี๊ยวซ่า เพิ่มข้าวให้อีกตะหาก
สมัยนั้น 20-25 บาท นี่กินกันอิ่มแทบอ้วกครับ


ว่าแล้วก็คิดถึงอาหารสมัยมัธยมจริงๆ
คงต้องหาเวลาจัดทริปกิน รำลึกความหลังกับเพื่อนสักทีล่ะครับ

*ก้มลงดูพุงตัวเองแล้วทำหน้าเหยาหมิงใส่*... ^^"


ampmie152.
http://ampmie152.blogspot.com/

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

[INV033] รีวิว 6 เดือน กับการเป็น FA ที่ Finnomena

[INV023] วิธีใช้ไฟล์ excel ประเมินมูลค่าหุ้นคร่าวๆจากงบการเงิน

[IT006] How to convert UTF-8 to ANSI ? (Thai fonts)

[MUS001] Kazoo...เครื่องดนตรีที่ใครๆก็เล่นได้!

[OTH004] มาเล่นแฟลกฟุตบอลกันเถอะ!