[INV010] Note from Money Talk @ SET: ตรวจสุขภาพการเงินการลงทุน (14-09-2014)

บันทึกของผมจากงาน Money Talk @ SET: ตรวจสุขภาพการเงินการลงทุน (14-09-2014) 
คำเตือน: จดตามที่ได้ยินและความเข้าใจของตนเอง ไม่รับประกันความถูกต้อง ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้ ...โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพข้อมูล.

รายชื่อวิทยากร
- คุณวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ: ผู้เชี่ยวชาญวางแผนการเงิน
- คุณชาย มโนภาส: อุปนายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร: ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
- ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา, อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ: ผู้ดำเนินรายการ

ดร.ไพบูลย์: ตรวจสุขภาพการเงินเป็นยังไง?

คุณวิวรรณ: 
- ให้ snapshot ดูว่า ณ จุดหนึ่งเรามีสถานะเป็นอย่างไร เพื่อเอามาเปรียบเทียบกับอดีต เพื่อดูว่าตอนนี้เหมาะสมแล้วหรือยัง ต้องตั้งเป้าหมายก่อนการตรวจ
- การตั้งเป้าหมายหลัก 3 อย่างคือ 1.) หลุดพ้นความยากจน 2.) สร้างความมั่นคงกับชีวิต 3.) สร้างความมั่งคั่งส่งต่อให้ทายาท 
- วิธีการบรรลุเป้าหมาย: "รู้หา รู้เก็บ รู้ใช้ รู้ขยายดอกผล"
- ต้องตรวจถี่แค่ไหน?: ตามทฤษฎี อย่างน้อยปีละครั้ง ในความเป็นจริง สุขภาพการเงิน 6 เดือนครั้ง แต่ถ้าสุขภาพการลงทุนควรจะบ่อยกว่านั้น
- แบ่งสัดส่วนของพอร์ต พอช่วงนี้หุ้นโตมากก็จะโยกมาลงทุนอย่างอื่นบ้าง เพื่อคงสัดส่วน
- จำเป็นต้องแบ่งเงินเป็นก้อนๆเพื่อไปลงทุนเพิ่ม ไม่งั้นจะ conservative เกินไป

คุณชาย:
- ดูก่อนว่าเรากู้เงินมาเยอะไหม? ตอนนี้พบว่ามีนักลงทุนในเอเชีย กู้เพิ่มอีกเท่าตัวจากปีก่อนเพื่อลงทุนในต่างประเทศ
- เพราะดอกเบี้ยเงินกู้ถูกมาก เลยกู้เอามาลงทุนในหุ้นกัน ซึ่งมีความเสี่ยงถ้าอัตราดอกเบี้ยขึ้น
- เรื่องสภาพคล่อง: ถ้าเกิดสงครามหรือเหตุฉุกเฉิน ตลาดหุ้นปิด จึงต้องเผื่อสภาพคล่องไว้ด้วย
- ถ้าจะไปลงทุนต่างประเทศต้องมีความรู้เกี่ยวกับประเทศนั้นๆก่อน เพราะการแข่งขันแต่ละประเทศนั้นไม่เหมือนกัน อย่างจีน ค้าปลีกอันดับ 1 มี mkt. share แค่ 14% หรือบางประเทศที่รัฐบาลสามารถเข้าไปแทรกแซงกิจการต่างๆได้

คุณวิวรรณ:
- ลงทุนต่างประเทศเริ่มจากผ่านกองทุนรวมก่อน เช่น ถ้าคิดว่าหุ้นเทคโนโลยีจะดี ก็ลงทุนในกองทุนที่อ้างอิงกับ NASDAQ ต้องดูโอกาสที่จะเกิดในแต่ละภูมิภาค

ดร.นิเวศน์:
- ตรวจกรรมของตัวเองก่อน คือลูกแก้วของตัวเอง เป็นเรื่องลูกแก้ว 3 ดวง แต่ละคนมีลูกแก้วที่สว่างไม่เท่ากัน ลูกแก้ว 3 ดวงจะบอกว่าอนาคตจะเป็นยังไง
- ดวงที่ 1: พ่อแม่ให้มา ได้มาจากมรดก ได้มาจากการทำงาน การเก็บออม
- ดวงที่ 2: ความสามารถในการลงทุน ได้จากผลตอบแทน ต้องเข้าใจว่าลงทุนอะไรถึงได้ผลตอบแทนสูง ลงในหุ้นเฉลี่ยแล้วทุกๆ 7 ปี จะมีเงินเพิ่มเท่าตัว แต่ก็ต้องระวัง ถ้าแรงเกินไปลูกแก้วจะแตกได้ ต้องประเมินความสามารถของตนเองก่อน ถ้าไม่เก่งพอก็ลงในกองทุนแทนดีกว่า
- ดวงที่ 3: ระยะเวลาในการลงทุน ยิ่งยาวยิ่งได้เปรียบ ลงทุนในหุ้นตลอด 20-30-40 ปี จะสว่างมาก ถ้าอายุน้อยจะได้เปรียบอยู่แล้ว
- ทำแก้วทั้ง 3 ใบให้สว่างมากที่สุดและทำตลอดเวลา ต่อเนื่อง 

อ.เสน่ห์: ควรตรวจด้วยตัวเองหรือให้คนอื่นตรวจให้?

คุณวิวรรณ: ได้ทั้งสองอย่าง อาจใช้บริการกองทุน โบรคเกอร์ ส่วนเรื่องสภาพคล่อง ต้องเปลี่ยนเป็นเงินได้ภายใน 1 อาทิตย์ กันไว้เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับ 1 ปี

อ.เสน่ห์: เราตรวจสุขภาพในภพหน้าด้วยได้ไหม?

คุณชาย: หนี้ภายในบ้านคือภาระค่าใช้จ่ายในบ้าน เอาเงินมาดูแลพ่อแม่ หนี้ภายนอก เราใช้ชีวิตทุกวันนี้ก็เป็นหนี้บุญคุณใครหลายๆคน มีคนที่สละตน อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือสังคมแทนเรา

อ.เสน่ห์: ควรจะมีการเปลี่ยนแผนไหม?

ดร.นิเวศน์: บางคนคิดว่า ดวงที่ 3 นานเกินไป ทนไม่ไหว เลยมาเร่งเอาดวงที่ 2 แต่ระยะยาวมันไม่ได้ผลตอบแทนดีสุดๆเสมอไป ถ้าไม่รู้ตัวเองก็จะตกกลับลงมาได้ ก็ควรต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ให้แก้ว 3 ดวงเสริมกันไป ไม่ต้องไปเร่ง อย่าคิดว่าแก้วจะสุกใสตลอดไป

อ.เสน่ห์: ควรจะตรวจสุขภาพการเงินเองไหม?

คุณวิวรรณ: ควรจะทำเอง เราตั้งเป้าหมายของเราเองก็ควรจะตรวจเองว่าเหมาะสมแล้วหรือยัง ถ้าอายุมากขึ้น ความสามารถในการรับความเสี่ยงจะลดลง
- ตรวจดูว่าหุ้นแต่ละตัวที่ถือ เต็มมูลค่าแล้วรึยัง ถ้าเต็มก็ขายออกไปบ้าง อย่ายึดติดกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง
- ถ้ามีสงคราม ภัยพิบัติ ก็ต้องตรวจแล้วทบทวนว่าจะไปรอดไหม กันเผื่อสำหรับเหตุฉุกเฉินด้วย

ampmie152.
http://ampmie152.blogspot.com/