129
ไดอารีที่รัก
คงเป็นเพราะเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ผมยังไม่โตพอที่จะรับรู้ความรู้สึกเช่นนี้
วันนี้มันถึงวนมาอีกรอบ ให้ผมและทุกท่านได้สัมผัสกันแล้ว
...
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกได้ว่าอยู่ในช่วง curfew อย่างเป็นทางการครับ
วันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2553
ท้องฟ้าดูครึ้มๆ เหมือนคนตีหน้าเศร้า
วันนี้ผมเลิกงานเร็วที่สุดตั้งแต่ที่เข้าทำงานมา 1 ปี
ผมขับรถกลับบ้านพร้อมกับความคิดที่แล่นแข่งกับรถบนถนน
ดูท่าว่าความคิดจะแซงรถไปเสียแล้ว เพราะวันนี้รถติดมากเหลือเกิน
ผู้คนแห่กันกลับบ้าน หลังทราบข่าวประกาศเคอร์ฟิวเวลา 20.00 น.
ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร ร้านค้า สถาบันต่างๆ ถูกเผาทำลายกันเป็นว่าเล่น
ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมคนเหล่านั้นจึงรู้สึกสนุกสนานเมื่อสามารถเผาทำลายบ้านเมืองของประเทศตัวเองได้?
ปล้นทรัพย์ เผาเมือง ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น
เขาจะเคยคิดกันบ้างไหมว่า ถ้านั่นคือบ้านของคุณ ครอบครัวของคุณ เขาจะรู้สึกอย่างไร?
ภาพของปั๊มน้ำมันที่ชินตา แออัดไปด้วยรถจำนวนมากจนต้องต่อคิวยาวออกมาถึงถนน
สีหน้าของผู้คนจำนวนมากที่ยืนรอรถประจำทางที่ป้าย บ่งบอกถึงความรู้สึกอันไม่ปลอดภัยในชีวิตของพวกเขา
ร้าน 7-11 มีคนต่อคิวยาวเหยียด เหลือเพียงชั้นวางสินค้าที่ดูว่างเปล่าสะอาดตา
และใครที่ท้าต่อยกันไว้หลัง 7-11 ปิด นี่ก็คือโอกาสของคุณแล้ว!
...แผ่นกระดาษขนาด A4 ถูกติดไว้ที่ปนะตูเขียนว่า ร้านปิด 18.00น.
เปิดดูในทีวีพบว่ามีช่องหนึ่งจอนิ่งไปแล้ว
อีกหลายช่องถูกประโคมไปด้วย mv ปลุกใจรักชาติอย่างต่อเนื่อง
กระแสข่าวใน social network เต็มไปด้วยเรื่องของความเสียหายและการเอาตัวรอดในสถานการณ์วันนี้
เริ่มมีการแนะนำให้กักตุนอาหารและน้ำดื่ม บ้างก็แนะนำให้ถอนเงินสดเก็บไว้
จนไปถึงการตัดสัญญาณโทรศัพท์ บ้างก็ลือกันไปถึงเรื่องของการตัดสาธารณูปโภคต่างๆ รวมไปถึงอินเตอร์เน็ต
สายโทรศัพท์จากต่างประเทศ โทรเข้ามาติดๆกันสองครั้งโดยไม่ได้นัดหมาย
นั่นคือครอบครัวของผมเอง ขอบคุณครับ...ตอนนี้ผมสบายดี :)
และผมดีใจที่อย่างน้อยครอบครัวผมก็ยังไม่ต้องมาสัมผัสกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้...อย่างน้อยก็ในวันนี้
ผมไม่รู้ว่าต่อจากนาทีนี้ไปเหตุการณ์จะยิ่งร้ายแรงไปอีกแค่ไหน
แต่ผมขอให้ทุกคน อยู่รอดปลอดภัยและผ่านคืนนี้ไปด้วยกันครับ
เตรียมใจและตั้งสติไว้ให้พร้อมอยู่เสมอ กับการก่อการร้ายอีกหลายครั้งนับจากนี้ไป
เพราะเรายังจะต้องเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้ไปอีกนาน
นานมากครับ...จนกว่าคนไทยจะประสานเป็นหนึ่งกันได้อีกครั้ง
อดทนและเมตตา อย่าให้กระแสความเกลียดชังเข้ามาขโมยจิตใจของคุณไป
ความเป็นหนึ่ง...เริ่มที่ใจของตัวทุกคนเองครับ
...
เลือกตั้ง...ยังมีอีกหลายครั้ง
นายกฯ...ยังมีอีกหลายคน
พรรคการเมือง...เปลี่ยนขั้วกันได้หลายหน
แต่ชีวิตคน...มีครั้งเดียว.
...กลับบ้านกันเถอะครับ คนไทย.
ampmie152.
http://ampmie152.blogspot.com/
คงเป็นเพราะเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ผมยังไม่โตพอที่จะรับรู้ความรู้สึกเช่นนี้
วันนี้มันถึงวนมาอีกรอบ ให้ผมและทุกท่านได้สัมผัสกันแล้ว
...
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกได้ว่าอยู่ในช่วง curfew อย่างเป็นทางการครับ
วันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2553
ท้องฟ้าดูครึ้มๆ เหมือนคนตีหน้าเศร้า
วันนี้ผมเลิกงานเร็วที่สุดตั้งแต่ที่เข้าทำงานมา 1 ปี
ผมขับรถกลับบ้านพร้อมกับความคิดที่แล่นแข่งกับรถบนถนน
ดูท่าว่าความคิดจะแซงรถไปเสียแล้ว เพราะวันนี้รถติดมากเหลือเกิน
ผู้คนแห่กันกลับบ้าน หลังทราบข่าวประกาศเคอร์ฟิวเวลา 20.00 น.
ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร ร้านค้า สถาบันต่างๆ ถูกเผาทำลายกันเป็นว่าเล่น
ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมคนเหล่านั้นจึงรู้สึกสนุกสนานเมื่อสามารถเผาทำลายบ้านเมืองของประเทศตัวเองได้?
ปล้นทรัพย์ เผาเมือง ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น
เขาจะเคยคิดกันบ้างไหมว่า ถ้านั่นคือบ้านของคุณ ครอบครัวของคุณ เขาจะรู้สึกอย่างไร?
ภาพของปั๊มน้ำมันที่ชินตา แออัดไปด้วยรถจำนวนมากจนต้องต่อคิวยาวออกมาถึงถนน
สีหน้าของผู้คนจำนวนมากที่ยืนรอรถประจำทางที่ป้าย บ่งบอกถึงความรู้สึกอันไม่ปลอดภัยในชีวิตของพวกเขา
ร้าน 7-11 มีคนต่อคิวยาวเหยียด เหลือเพียงชั้นวางสินค้าที่ดูว่างเปล่าสะอาดตา
และใครที่ท้าต่อยกันไว้หลัง 7-11 ปิด นี่ก็คือโอกาสของคุณแล้ว!
...แผ่นกระดาษขนาด A4 ถูกติดไว้ที่ปนะตูเขียนว่า ร้านปิด 18.00น.
เปิดดูในทีวีพบว่ามีช่องหนึ่งจอนิ่งไปแล้ว
อีกหลายช่องถูกประโคมไปด้วย mv ปลุกใจรักชาติอย่างต่อเนื่อง
กระแสข่าวใน social network เต็มไปด้วยเรื่องของความเสียหายและการเอาตัวรอดในสถานการณ์วันนี้
เริ่มมีการแนะนำให้กักตุนอาหารและน้ำดื่ม บ้างก็แนะนำให้ถอนเงินสดเก็บไว้
จนไปถึงการตัดสัญญาณโทรศัพท์ บ้างก็ลือกันไปถึงเรื่องของการตัดสาธารณูปโภคต่างๆ รวมไปถึงอินเตอร์เน็ต
สายโทรศัพท์จากต่างประเทศ โทรเข้ามาติดๆกันสองครั้งโดยไม่ได้นัดหมาย
นั่นคือครอบครัวของผมเอง ขอบคุณครับ...ตอนนี้ผมสบายดี :)
และผมดีใจที่อย่างน้อยครอบครัวผมก็ยังไม่ต้องมาสัมผัสกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้...อย่างน้อยก็ในวันนี้
ผมไม่รู้ว่าต่อจากนาทีนี้ไปเหตุการณ์จะยิ่งร้ายแรงไปอีกแค่ไหน
แต่ผมขอให้ทุกคน อยู่รอดปลอดภัยและผ่านคืนนี้ไปด้วยกันครับ
เตรียมใจและตั้งสติไว้ให้พร้อมอยู่เสมอ กับการก่อการร้ายอีกหลายครั้งนับจากนี้ไป
เพราะเรายังจะต้องเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้ไปอีกนาน
นานมากครับ...จนกว่าคนไทยจะประสานเป็นหนึ่งกันได้อีกครั้ง
อดทนและเมตตา อย่าให้กระแสความเกลียดชังเข้ามาขโมยจิตใจของคุณไป
ความเป็นหนึ่ง...เริ่มที่ใจของตัวทุกคนเองครับ
...
เลือกตั้ง...ยังมีอีกหลายครั้ง
นายกฯ...ยังมีอีกหลายคน
พรรคการเมือง...เปลี่ยนขั้วกันได้หลายหน
แต่ชีวิตคน...มีครั้งเดียว.
...กลับบ้านกันเถอะครับ คนไทย.
ampmie152.
http://ampmie152.blogspot.com/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น