[TRA006] เที่ยวโตเกียว: สถานที่ชมซากุระในโตเกียว ตอนที่ 2
ความเดิมตอนที่แล้ว ผมได้แนะนำ 4 สถานที่ที่ผมเคยแวะไปชมซากุระจากทริปเที่ยวญี่ปุ่นของผมเอง
ในตอนนี้นอกจากจะมีสวนชื่อดังในโตเกียวแล้ว ยังมีแถมเมืองใกล้ๆที่น่าสนใจด้วยครับ ไปต่อกันเลย
...
5. Ueno Park (上野公園)
สวนยอดฮิตติดอันดับหนึ่งของมหาชนแห่งการชมซากุระ เราจะได้เห็นภาพคนญี่ปุ่นมานั่งจองที่กันตั้งแต่เช้า พอช่วงบ่ายคนก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆไปจนถึงช่วงค่ำคนก็ยังไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ทั้งไทย จีน ฝรั่ง เดินกันเต็มไปหมด ถึงพื้นที่สวนจะใหญ่มาก เพราะมีทั้งสวนสัตว์ข้างใน มีพิพิธภัณฑ์ (Tokyo National Museum) มีทะเลสาบ มีซุ้มขายอาหารเครื่องดื่ม สนามเด็กเล่น และศิลปินมาแสดงเปิดหมวกมากมาย แต่พอเดินไปที่ไหนก็ยังรู้สึกคนแน่นไปหมด ต้นซากุระที่นี่มีเยอะมากๆ พอลมพัดทีจะเห็นกลีบของดอกซากุระร่วงเป็นภาพที่สวยงามมากครับ
การเดินทาง: สถานี Ueno
ข้อดี: เป็นที่ยอดนิยม พื้นที่ใหญ่มาก เดินได้ทั้งวัน เข้าฟรี กินเบียร์ได้
ข้อเสีย: คนเยอะมาก แค่คนญี่ปุ่นก็เยอะอยู่แล้ว เจอคนไทย คนจีน เข้าไปอีก เพลีย T-T
6. Rikugien (六義園)
ว่ากันว่าที่นี่เป็นสวนที่ได้รับการยอมรับว่ามี landscape ที่สวยที่สุด สร้างตั้งแต่สมัยต้นศตวรรษที่18 ที่นี่มีชื่อเสียงสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ดอกซากุระบาน ที่นี่จะจัดนิทรรศการชมซากุระเรืองแสงในตอนกลางคืน (Yozakura) ซึ่งบรรยากาศการเดินในสวนจะคล้ายๆเดินป่าเล็กๆ อากาศข้างในค่อนข้างเย็นและสดชื่นเพราะมีต้นไม้ปกคลุม (ตอนมืดๆอย่าถ่ายรูปเพลินระวังตกน้ำนะครับ เพราะบางช่วงที่เป็นสะพานจะไม่มีรั้วกั้นนะ)
การเดินทาง: สถานี Komagome
ข้อดี: มีเปิดให้ชมซากุระเรืองแสงตอนค่ำ สวนสวย ทางเดินสวนเป็นแบบธรรมชาติ
ข้อเสีย: เก็บตังค์ และรอคิวซื้อตั๋วนานประมาณครึ่งชั่วโมง -_-"
7. Inokashira Park (井の頭恩賜公園)
ถ้าพูดถึงย่านคิจิโจจิแล้ว คงไม่มีสวนไหนจะใหญ่และโด่งดังเท่าที่นี่ สวน Inokashira มีเอกลักษณ์ที่มีทะเลสาบตรงกลางเป็นทางยาว(แน่นอนว่าฮิตถีบเป็ดมากๆ) มีสวนสัตว์ข้างใน และติดกับสวนยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์จิบลิอีกด้วย โชคไม่ดีที่วันนี้ฝนตก ทำให้ผมเดินชมสวนได้ไม่นานเท่าไหร่นัก ถ่ายรูปมาก็ดูครึ้มๆไปเสียหมดเลยครับ
การเดินทาง: สถานี Kichijoji
ข้อดี: คนไม่เยอะมาก มีทะเลสาบตรงกลางที่สวย เหมาะกับการถีบเป็ด พื้นที่กว้างใหญ่
ข้อเสีย: อยู่ห่างออกมาจากตัวเมืองเล็กน้อย
8. Kawagoe (川越)
ออกมาจากโตเกียว ขึ้นมาทางจังหวัดไซตามะ ใช้เวลาไม่นานประมาณ 40 นาที คาวาโกเอะเป็นเมืองเล็กๆที่คงสภาพและบรรยากาศของสมัยยุคเอโดะ ผันตัวมาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่หลายๆคนตกหลุมรัก ได้รับฉายาว่าเป็น Little Edo อันที่จริงผมไม่ได้หาข้อมูลเรื่องจุดชมซากุระสำหรับที่นี่มาก่อน แต่พอได้เดินเที่ยวจนทั่วแล้วก็พบว่าเมืองนี้มีซากุระกระจายอยู่ตามที่ท่องเที่ยวสำคัญเกือบทุกที่เลยครับ
การเดินทาง: สถานี Hon-Kawagoe
ข้อดี: เป็นเมืองที่มีบรรยากาศเป็นเอกลักษณ์ ไม่ไกลจากโตเกียว
ข้อเสีย: สถานที่เที่ยวแต่ละแห่งอยู่ไกลพอสมควร(แต่ก็เดินได้) นั่งรถบัสจะประหยัดเวลาได้เยอะ
ampmie152.
http://ampmie152.blogspot.com
ในตอนนี้นอกจากจะมีสวนชื่อดังในโตเกียวแล้ว ยังมีแถมเมืองใกล้ๆที่น่าสนใจด้วยครับ ไปต่อกันเลย
...
5. Ueno Park (上野公園)
สวนยอดฮิตติดอันดับหนึ่งของมหาชนแห่งการชมซากุระ เราจะได้เห็นภาพคนญี่ปุ่นมานั่งจองที่กันตั้งแต่เช้า พอช่วงบ่ายคนก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆไปจนถึงช่วงค่ำคนก็ยังไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ทั้งไทย จีน ฝรั่ง เดินกันเต็มไปหมด ถึงพื้นที่สวนจะใหญ่มาก เพราะมีทั้งสวนสัตว์ข้างใน มีพิพิธภัณฑ์ (Tokyo National Museum) มีทะเลสาบ มีซุ้มขายอาหารเครื่องดื่ม สนามเด็กเล่น และศิลปินมาแสดงเปิดหมวกมากมาย แต่พอเดินไปที่ไหนก็ยังรู้สึกคนแน่นไปหมด ต้นซากุระที่นี่มีเยอะมากๆ พอลมพัดทีจะเห็นกลีบของดอกซากุระร่วงเป็นภาพที่สวยงามมากครับ
การเดินทาง: สถานี Ueno
ข้อดี: เป็นที่ยอดนิยม พื้นที่ใหญ่มาก เดินได้ทั้งวัน เข้าฟรี กินเบียร์ได้
ข้อเสีย: คนเยอะมาก แค่คนญี่ปุ่นก็เยอะอยู่แล้ว เจอคนไทย คนจีน เข้าไปอีก เพลีย T-T
คนเยอะมากเลย |
อากาศดีคนนิยมถีบเป็ด |
คิวซุ้ม Starbucks ยาวมาก |
ปลาวาฬยักษ์ |
6. Rikugien (六義園)
ว่ากันว่าที่นี่เป็นสวนที่ได้รับการยอมรับว่ามี landscape ที่สวยที่สุด สร้างตั้งแต่สมัยต้นศตวรรษที่18 ที่นี่มีชื่อเสียงสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ดอกซากุระบาน ที่นี่จะจัดนิทรรศการชมซากุระเรืองแสงในตอนกลางคืน (Yozakura) ซึ่งบรรยากาศการเดินในสวนจะคล้ายๆเดินป่าเล็กๆ อากาศข้างในค่อนข้างเย็นและสดชื่นเพราะมีต้นไม้ปกคลุม (ตอนมืดๆอย่าถ่ายรูปเพลินระวังตกน้ำนะครับ เพราะบางช่วงที่เป็นสะพานจะไม่มีรั้วกั้นนะ)
การเดินทาง: สถานี Komagome
ข้อดี: มีเปิดให้ชมซากุระเรืองแสงตอนค่ำ สวนสวย ทางเดินสวนเป็นแบบธรรมชาติ
ข้อเสีย: เก็บตังค์ และรอคิวซื้อตั๋วนานประมาณครึ่งชั่วโมง -_-"
รอคิวยาวมาถึงด้านข้างสวนเลยครับ |
เขยิบมาถึงหน้าทางเข้าแล้ว |
แผนที่เดินในสวน |
มีซุ้มขนมดังโงะ ฮิตกันมากๆ |
ต้นใหญ่มากๆ |
พอเริ่มมืดทางสวนจะเปิดไฟ |
7. Inokashira Park (井の頭恩賜公園)
ถ้าพูดถึงย่านคิจิโจจิแล้ว คงไม่มีสวนไหนจะใหญ่และโด่งดังเท่าที่นี่ สวน Inokashira มีเอกลักษณ์ที่มีทะเลสาบตรงกลางเป็นทางยาว(แน่นอนว่าฮิตถีบเป็ดมากๆ) มีสวนสัตว์ข้างใน และติดกับสวนยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์จิบลิอีกด้วย โชคไม่ดีที่วันนี้ฝนตก ทำให้ผมเดินชมสวนได้ไม่นานเท่าไหร่นัก ถ่ายรูปมาก็ดูครึ้มๆไปเสียหมดเลยครับ
การเดินทาง: สถานี Kichijoji
ข้อดี: คนไม่เยอะมาก มีทะเลสาบตรงกลางที่สวย เหมาะกับการถีบเป็ด พื้นที่กว้างใหญ่
ข้อเสีย: อยู่ห่างออกมาจากตัวเมืองเล็กน้อย
8. Kawagoe (川越)
ออกมาจากโตเกียว ขึ้นมาทางจังหวัดไซตามะ ใช้เวลาไม่นานประมาณ 40 นาที คาวาโกเอะเป็นเมืองเล็กๆที่คงสภาพและบรรยากาศของสมัยยุคเอโดะ ผันตัวมาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่หลายๆคนตกหลุมรัก ได้รับฉายาว่าเป็น Little Edo อันที่จริงผมไม่ได้หาข้อมูลเรื่องจุดชมซากุระสำหรับที่นี่มาก่อน แต่พอได้เดินเที่ยวจนทั่วแล้วก็พบว่าเมืองนี้มีซากุระกระจายอยู่ตามที่ท่องเที่ยวสำคัญเกือบทุกที่เลยครับ
การเดินทาง: สถานี Hon-Kawagoe
ข้อดี: เป็นเมืองที่มีบรรยากาศเป็นเอกลักษณ์ ไม่ไกลจากโตเกียว
ข้อเสีย: สถานที่เที่ยวแต่ละแห่งอยู่ไกลพอสมควร(แต่ก็เดินได้) นั่งรถบัสจะประหยัดเวลาได้เยอะ
ลานวัด Renkeiji |
สนามเด็กเล่นในสวน Hatsukari |
สวนใน Honmaru Goten |
เทศกาลชมซากุระที่วัด Kitain |
ampmie152.
http://ampmie152.blogspot.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น