Please support me!

หากชอบใจบทความของผม โปรดสนับสนุนค่ากาแฟเพื่อเป็นกำลังใจนะครับ คลิกที่นี่

147

ไดอารีที่รัก...

วันนี้ผมตื่นแต่เช้ากว่าปกติ 
นอกจากการตื่นมาเชียร์ทีมแพคเกอร์สหรือดูซุปเปอร์โบวล์แล้ว การตื่นเช้านั้นไม่ใช่ความถนัดของผมเอาเสียเลย 
ความตั้งใจของผมวันนี้ คือการทดลองขึ้นรถเมล์ไปที่ทำงานแห่งใหม่ครับ

ปกติแล้ววิธีที่ง่ายและเร็วที่สุด คือการขึ้น bts แล้วนั่งวินมอเตอร์ไซค์ต่อ ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดราว 40-45 นาที แต่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เนื่องจากผมต้องขึ้น bts จากส่วนต่อขยาย หากคิดเป็นราคาต่อเที่ยวของตั๋ว 30 วัน จะอยู่ที่ 25+10= 35 บาท ส่วนค่าวินฯก็สูงถึง 30 บาท รวมเป็น 65 บาท

นี่จึงเป็นที่มาของการตื่นให้เช้ากว่าปกติ 30 นาที เพื่อที่จะออกมารอรถเมล์ที่ป้าย ผมยืนรออยู่ราว 10 นาที การเฝ้ารอก็สิ้นสุดลง ภาพรถเมล์ไม่มีแอร์สีครีมแดงจอดเลยป้ายทำให้ผมและผู้คนอีกจำนวนไม่น้อยต้องออกแรงวิ่งตามกันเล็กน้อย ผมเหลือบไปเห็นว่าคันนี้เป็นรถเมล์ฟรีจากภาษีประชาชน ถึงไม่เห็นก็พอเดาได้เพราะรถจะแน่นมาก ต้องยืนเกือบตลอดการเดินทาง รู้สึกตัวอีกทีคนขี้ร้อนอย่างผมก็เหงื่อท่วมเสียแล้ว โชคดีที่ช่วงใกล้ถึงที่ทำงานคนลงไปเยอะจึงได้นั่งบ้าง การได้ที่นั่งริมหน้าต่างถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม เพราะลมที่พัดเข้ามาเวลารถวิ่งทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก

 ผมถึงที่หมายโดยใช้เวลา 45 นาที รวมเวลารอรถก็เป็น 55 นาที ค่าใช้จ่าย 0 บาท ถ้าคิดว่าไม่โชคดีจะได้เจอรถเมล์ฟรี ก็กะว่าประมาณ 8 บาท

สรุปว่าส่วนต่าง 57 บาทนั้น สามารถซื้อเวลาของผมได้ประมาณ 35-40 นาที บวกกับซื้อความสบายนิดหน่อยคือเปลี่ยนที่ยืนบนรถเมล์เป็น bts ที่ติดแอร์ (แต่ความแน่นเท่ากัน) และอาจบวกกับซื้อความแน่นอนของการรอรถ ( รอ bts จะมีความคลาดเคลื่อนน้อยกว่ารถเมล์) เมื่อพิจารณาถึงกำลังซื้อของผมแล้ว ผมก็ยินดีที่จะจ่ายเพิ่ม 57 บาทต่อวันได้ครับ

แต่กับเพื่อนร่วมทางบนรถเมล์คันนี้หลายๆคนไม่มีโอกาสที่จะเลือกได้แบบผม เงิน 57 บาทต่อวันหมายถึงอาหารเกือบ 2 มื้อ สำหรับคนทำงานค่าแรง 300 บาทต่อวัน การหมดเงินค่าเดินทางในสัดส่วนสูงขนาดนี้ย่อมลำบากแน่นอน (ค่าเดินทางในกรุงเทพฯนั้นแพงมากๆเมื่อเทียบกับค่าแรง เทียบกับเมืองอื่นๆในหลายประเทศ)

ผมนึกไปถึงข่าวลือเรื่องการจะยกเลิกค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท (ถ้าเป็นแค่ข่าวลือก็โอเค) และข่าวเรื่องการปรับรถเมล์ฟรีให้เป็นจ่าย 50% แทน จึงคิดว่าจะกระทบกับประชาชนรากหญ้าเต็มๆ 
จะด้วยข้ออ้างอะไรก็แล้วแต่ที่รัฐบาลกล่าว (ก็เอาเถอะครับ เพราะประชาชนไม่มีสิทธิถกเถียง ไม่งั้นบ้านเมืองจะไม่เดินหน้าเนาะ...อิอิ) 

ผมแค่ขอละกันครับ...
อย่าเอาปากท้องประชาชนเป็นตัวประกันในเกมการเมืองของพวกคุณเลย.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

[INV033] รีวิว 6 เดือน กับการเป็น FA ที่ Finnomena

[INV023] วิธีใช้ไฟล์ excel ประเมินมูลค่าหุ้นคร่าวๆจากงบการเงิน

[IT006] How to convert UTF-8 to ANSI ? (Thai fonts)

[MUS001] Kazoo...เครื่องดนตรีที่ใครๆก็เล่นได้!

[OTH004] มาเล่นแฟลกฟุตบอลกันเถอะ!